วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2563

จีน (1930-2010) เป๋ห่าว vs เหลยเล่อ ตำนาน โจรตัดโจร แห่งทศวรรษที่ 60

เป๋ห่าว vs เหลยเล่อ ตำนานโจร ตัด โจร แห่งทศวรรษที่ 60

ในยุค 90 มีหนังฮ่องกง 2 เรื่องที่สร้างจากชีประัติของอาชญกร 2 เรื่องที่ดัง เรื่องแรก เกี่ยข้องกับ ชีประัติของราชายาเสพติด เป๋ห่า ชื่อเรื่องคือ  To be Number One หรือ เป๋ห่าเป็นเจ้าพ่อ ที่แสดงโดย หลี่เหลี่ยงเหว่ย ในปี 1991 ขณะเดียวกันปีนั้น ก็มีหนังออกมาอีกเรื่อง เป็นเรื่องชีประัติของ ตำรจ เหลยเล่อ  ชื่อ  Lee Rock หรือ ตำรวจตัดตำรวจ ที่แสดงโดย หลิวเต๋อหัว   แต่แล้วในปี 2017 นั้น มีหนังที่รีเมคทั้งสองเรื่อง ชื่อ เรื่อง Chasing the Dragon ที่ ดอนนี่ เย็น แสดงเป็น เป๋ห่าว และ หลิวเต๋อหัว กลับมารับบท ตำรวจ เหลยเล่อ ที่เคยเล่นบทนี้มาก่อน นั้นคือ เรื่องราของ เป๋ห่าว ราชายาเสพติดอันดับหนึ่งของเอเชีย กับ เหลยเล่อ ตำรวจมือปราบฮ่องกง ฉายา มือปราบห้าร้อยล้านเหรียญ ที่เป็นเจ้าของตำนาน โจร ตัดโจร แห่งยุคทศรรษที่ 60

ชื่อหนังเรื่อง Chasing The Dragon  "ไล่มังกร " ( 追龍 : 追龙 ) เป็นคำแสลงในภาษาจีน นั่นคือ การสูดไล่สูดไอระเหยจาก ยาเสพติด เช่น เฮโรอีน โดย การไล่ล่า นั้นคือ การเผายาเสพติดที่ไม่ใช้ความร้อนมากเกินไป เพราะจะเผาไหม้เร็วเกินไป โดยอาจใช้อลูมิเนียมฟอยล์ ช่วยลดความร้อยลง เมื่อ เผายาเสพติดจนเกิดควันขึ้นมา นักเสพจะใช้ท่อ “ไล่ล่า” ควัน เพื่อใช้ในการสูดดม จึงวิธีการเสพยาเสพติดนี้ว่า การไล่ล่ามังกร ซึ่งชื่อหนังมาเปรียบเปรย การไล่ล่า เป๋ห่าว เจ้าพ่อยาเสพติด กับ เหลยเล่อ ตำรวจมือปราบนั่นเอง ทำไมยิ่งไล่ล่า คนไล่ล่ากลับยิ่งสนุก

ทศรรษที่ 60 ฮ่องกงได้ชื่อ่า เป็นทศรรษที่มืดมนที่สุดของฮ่องกง จนมีสุภาษิต่า  ตำรจคอยค บคุม นรก( แก๊ง ไตรแอด)  นรก(ไตรแอด) คอยคบคุมคามปลอดภัยของผู้คน โดยมีตำรจ 4 คนที่คอยคบคุมแก๊งอาชญกรรมใต้ดิน หนึ่งในั้นคือ เหล่ยเล่อ

อึ้งซิกโฮ ( 吳錫豪 ; 吴锡豪) หรือเป๋ห่าว
ขอเริ่มต้นจากชีประัติ  ฝั่งโจรก่อน คือ เป๋ห่าว  ชื่อจริง คือ อึ้งเซ็กห่าว 吳錫豪 หรือ “เป๋ห่าว เจ้าพ่อแก๊งมาเฟีย ราชาเฮโรอินชาวแต้จิ๋วคนดังแห่งฮ่องกงในยุคทศรรษที่ 50s ผู้โด่งดังในช่วงเวลาที่องค์กรนอกกฎหมายในฮ่องกงรุ่งเรืองถึงสุดขีด ขณะที่องค์กรตำรวจก็ตกต่ำสุดขีดด้วยปัญหาคอร์รัปชัน เช่นกัน

เป๋ห่าว เกิดในปี 1930 เขาเกิดที่กวางตุ้ง แหล่งกำเนิดของชาวแต้จิ๋ว อึ้งซิกโฮ ได้รับฉายาว่า เป๋ห่าว  หรือ "Limpy Ho" ที่แปลเป็นไทย ่า ไอ้ห่าอ่อนปวกเปียก  หลังจากเขาได้รับบาดเจ็บที่ขาในการต่อสู้บนท้องถนน ย้อนกลับไปช่วงปี 1960 ประเทศจีนเป็นยุคนโยบาย ก้ากระโดด ของเหมาเจ๋อตุงึ่งนโยบายที่ผิดพลาด ทำให้ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เกิดความอดอยากไปทั่วประเทศ อึ้งซิกโฮ จึงต้องแอบหลบหนีจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้าไปยังฮ่องกง

เขาเข้ามาฮ่องกงมาในช่งทศรรษที่ 50 หลังจากที่ ตู้เยว่ชิง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ราชาขายฝิ่น มาเสียชีวิตที่ฮ่องกงในปี 1951 งเป็นระยะเลาที่ไม่นาน เมื่อมาถึงฮ่องกงเขา แรกเริ่มเขารับทำงานทุกอย่าง โดยเริ่มต้นจากการขายดอกไม้  จนในที่สุด เขาก็รู้จักกับ 2 พี่น้องตระกูลหม่า ชีิตของเขาก็เปลี่ยนไปขายยาเสพติดโดยเฉพาะฝิ่นแทน จนในที่สุด เขาก็สามารถเข้าเป็นสมาชิกของแก๊งค์ 14K ได้สำเร็จ  ช่วงต้นปี 1967 เป๋ห่าว ก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการค้าของเถื่อนของฝิ่นและมอร์ฟีน เขาแต่งงานกับ เซิฉนยู่หยิ่งCheng Yuet-Ying ( ประเพณีจีน : 鄭月英 ; จีนจีน : 郑月英 ) ซึ่งยังมีส่วนร่วมในการค้ายาเสพติด ยุคนั้น เป๋ห่าว อาศัยเครือข่ายคนแต้จิ๋ สร้างเครือข่ายยาเสพติดอย่างยิ่งใหญ่ไปทั่เอเชีย คลอบคลุมเครือข่ายทั้งฮ่องกง , มาเก๊า , ไทย , ไต้หวัน , สิงคโปร์ ,อังกฤษและอเมริกา

ช่งนี้เองที่เขาได้รู้จักกับ นายตำรจ เหลยเล่อ และนับถือเป็นพี่ชาย จนในที่สุด เป๋ห่า ก็เป็นผู้สนับสนุนหลักของสถานีตำรจทุกแห่งในเกาลูน โดยเฉพาะที่เหลยเล่อ ดูแล 

แต่แล้วเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 1974 เป๋ห่าวกลับถูกจับกุมพร้อมภรรยา และ พรรคพก รม 9 คน  โดยข้อหาลักลอบขนฝิ่นและมอร์ฟีนจำนน  20 ตันจากประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในฮ่องกง  สื่อตีพิมพ์ฉายาเขาทันทีว่า "นายใหญ่" ตำรวจฮ่องกง อธิบายมีหลักฐานว่า เป๋ห่าว โอนเงินจำนวนหลายล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ไปที่ประเทศไทย เพื่อชำระค่ายาเสพติด โดยมีหลักฐานคือ การโอนเงิน 32.6 ล้านเหรียญสหรัฐมายังไทยเพื่อชำระค่ายาเสพติด ที่เมื่อนำไปขายที่ฮ่องกงจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 10-15 เท่า ทำให้ เป๋ห่าว ถูกตัดสินว่ากระทำผิด ในเดือนพฤษภาคม 1975 ต้องโทษจำคุกถึง 30 ปี

ไม่นานต่อมา ภรรยาของเขาถูกพิพากษาในดคีเดียกัน และถูกตัดสินลงโทษจำคุกถึง 16 ปีและถูกปรับ 1 ล้านหยวน

ขณะอยู่ในคุก เป๋ห่าว กลับกลายเป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดอย่างเต็มตัว ในเดือนเมษายน 1991 ผู้พิพากษาของฮ่องกง ประกาศลดหย่อนโทษจำคุกของเขาเหลือ 4 ปีครึ่ง แต่ช่วงกรกฎาคม ปีนั้นเอง  เป๋ห่าว ก็ได้รับการวินิจฉัยจากหมอว่า เขาเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย และคาดว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 สัปดาห์ เขาจึงได้รับการนิรโทษกรรม

แต่แล้ วันที่ 14 สิงหาคม 1991 หลังจากเป๋ห่าว ต้องติดคุกนานถึง 16 ปี เป๋ห่าวก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา แต่เขากลับไม่ได้กลับบ้าน แต่ต้องย้ายตัเองไปอยู่ที่โรงพยาบาลควีนแมรี่ แทน อีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา เขาก็เสียชีวิตเมื่อวันที่  8 กันยายน 1991 อายุ 61 ปี ส่วนภรรยาเขาก็ได้รับการปล่อยตัวจากคุกในปี 1992 ไม่ได้ไปงานศพของสามี

เหลยเล่อ หรือ Lee Rock 吕乐
คู่ปรับและคู่หู ของเป๋ห่าว คือ ตำรวจ เหลยเล่อ หรือ Lee Rock ถือเป็น หนึ่งในสี่สุดยอด มือปราบอาชญกรรมฮ่องกงที่คอยคบคุมแก๊งอาชกกรรมใต้ดิน เหล่ยเล่อ ถือเป็นตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญด้านองค์กรอาชญกรรมใต้ดินมากก่าใครเป็นพิเศษ เหลยเล่อ สร้างผลงานไว้มากมาย แต่ฉายาสุดท้ายของเขาคือ .มือปราบห้าร้อยล้านเหรียญ”

เดิมเขาเป็นเด็กหนุ่มเติบโตที่กวางตุ้ง เช่นเดียวกับ เป๋ห่าว ต่อมาหลบหนีเข้ามาที่ฮ่องกงเช่นกัน เขาเริ่มต้นอาชีพที่ฮ่องกง ด้วยการเป็นบุรุษไปรษณีย์ และถัดมาเป็นหนุ่มรถลาก ต่อมาในปี 1940 เขาจึงเข้า กองตำรวจลาดตะเน และ การลาดตะเตามท้องถนนทุกันนี่เอง ทำให้เขาได้รู้จักและสนิทสนม กับแก๊งค์อาชญกรรมหลายคน ต่อมา เขาก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น สายสืบ ของกรมตำรวจ

ช่งนี้เอง ที่มีหลักฐานมนตอนหลัง ยืนยัน่า เขาทั้งรับเงินสินบนจากผู้ใต้บังคับบัญชา และตัเขายังติดสินบน หัหน้าของเขาอีกด้ย เพื่อตำแหน่งหน้าที่การงาน นอกจากนี้ ตัเหล่ยเล่อ ยังเป็น คนรบรม ค่าคุ้มครองแก๊งอาชญกรรมใต้ดิน ไม่่า จะ ยาเสพติด บ่อน ่อง ต่างๆ  ในเขตดูแลของเขาอีกด้ย

แต่แล้ ปี 1955 ขณะที่แก๊ง 14K กำลังจัดงานเลี้ยงอยู่ เหลยเล่อ ก็นำกำลังตำรวจบุกเข้าไปจับกุมแก๊ง 14K  ผลงานครั้งนั้นเองทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็น สายสืบอาวุโส ไม่กี่ปีถัดมา เกิดการจราจลที่ฮ่องกง เนื่องจากกรณี วันชาติจีน หรือวัน 10 2 ตัว คือ วันที่ 10 ตุลาคม ที่มี กลุ่ม คนรักชาติ กับ คนกลุ่มผู้นิยมพรรคคอมมิวนิสต์ โดยสหภาพแรงงาน ที่มีสายสัมพันธ์โดยตรงกับกรุงปักกิ่ง และกำลังได้รับอิทธิพลจากกลุ่มเรดการ์ด  ออกมาชูป้ายประท้ง รัฐบาลอังกฤษ  แต่ต่างฝ่ายต่างมีแก๊งค์ใต้ดินอยู่เบื้องหลัง แต่แก๊งส่นใหญ่สนับสนุนแนคิดของพรรคก๊กมินตั๋งมากก่า  เหตุการณ์นี้ แม้แต่กิมย้ง หรือ หลุยส์ชา เองก็ต้องหลบหนีออกจากฮ่องกงไปเป็นระยะเลา 1 ปี

เนื่องจาก เหล่ยเล่อ เป็นผู้เชี่ยวชาญกับแก๊งค์อาชญากรรม ครั้งนั้น เขาจึงได้รับตำแหน่งสำคัญในการจัดการกับการจราจลครั้งนี้ เมื่อการปราบจราจลเสร็จสิ้น  เขาก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง พร้อมกับย้ายไปอยู่สถานีตำรวจที่มีความสำคัญมากขึ้น ขณะที่ตำแหน่งหน้าที่การงานก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง

แต่ความสำเร็จในชีวิตของเขากลับได้มาจากความสกปรกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะการแต่งงานกับลูกสาวผู้มีอิทธิพล จนเขาสามารถเล่นเกมชิงอำนาจ ทั้งยศและตำแหน่งภายในกรมตำรวจได้ ในที่สุด เขาก็สามารถเลื่อนยศจนเป็นตำรวจระดับสูงได้สำเร็จ 

อย่างไรก็ดี ในช่งนี้ เขาื้อบ้านหลังใหม่ นักข่า ดันไปถามเขา่า บ้านหลังนี้มีราคา 500 ล้านเหรียญ จริงหรือไม่ แม้เขาจะไม่ตอบ และได้แต่ส่ายหน้า แต่เรื่องนี้เองที่ทำให้เขาได้รับฉายา มือปราบ 500 ล้านเหรียญ และเมื่อเรื่องนี้ รู้ถึงหู ผู้่าการฮอ่งกง เรื่องก็ร้อนทันที  มีคำสั่งลงทันที ให้มีการสอบสนเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการตั้งหน่ยงานอิสระ ICAC ขึ้นเพื่อตรจสอบและปฎิรูประบบตำรจ ทั้งหมด

ในปี 1967 เหลยเล่อ ถูกพักงานเนื่องจาก เขาถูกกล่าวหาว่า มีส่นพัพันกับการทุจริตคอรัปชั่น ในตอนแรกเขาเชื่อ่า เรื่องจะเงียบหายไป แต่แล้ เรื่องนี้ไปถึงประเทศอังกฤษ ที่เป็นผู้ปกครองยุคนั้น ก็ทำเรื่องอย่างจริงจัง  เขาได้ข่า นี้มา ทำให้ ปีถัดมา เขาชิงลาออกก่อนกำหนด ในัยแค่ 48 ปี   จนกระทั่งปี 1973 เขาก็่ตัดสินใจย้ายครอบครัว ทั้งภรรยา และลูก 8 คนอพยพไปอยู่ที่แคนาดา

แต่แล้วปี 1976 เขาก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า “มีทรัพย์สินไม่เหมาะสมกับฐานะ” ถ้าเป็นคนไทยก็คือข้อหา “ร่ำรวยผิดปกติ” นั่นเอง เนื่องจากถูกสืบสวนพบว่า เหลยเล่อ มีทรัพย์สินในครอบครองมากมาย ซึ่งเชื่อกันว่า มาจากากรคอรัปชั่นสมัยที่เขายังเป็นตำรวจ กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่

ทรัพย์สินของเขาที่ถูกค้นพบในตอนนั้น ถูกศาลสั่งอาญัติทันที 100 ล้านเหรียญฮ่องกง โดยทรัพย์สินหลักๆ ของเขากลับเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ที่ฮ่องกง และเงินสดจำนน 8 ล้านเหรียญฮ่องกง แต่เขาไหวตัวทัน เนื่องจากกฎหมายแคนาดา กับฮ่องกงนั้นมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ เขาจึงรีบย้ายตัวเองกลับมาอยู่ที่ ไต้หวัน แทน เพราะฮ่องกงกับไต้หัน นั้นไม่มีข้อตกลงเรื่องส่งตัผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน

แต่ในปี 1979 เขายังคงซื้อคอนโดหรูที่ไต้หวัน นั่นแสดงให้เห็นว่า ทรัพย์สินของเขาอีกมากที่ยังไม่ได้ถูก อาญัติทั้งหมด  เขาอาศัยอยู่ที่ไต้หวัน จนได้เป็นพลเมืองที่ไต้หวัน แต่ลูกชายทั้ง 7 คนยังคงอยู่ที่แคนาดาต่อไป

ในวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2010 เขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร ที่แคนาดา ศพของเขาถูกฝังที่แคนนาดา

คนหนึ่งมุ่งมั่นมาที่ฮ่องกงเพื่อเป็นโจร ขณะที่อีกคนมุ่งมั่นมาที่ฮ่องกงเพื่อเป็นตำรวจ แต่สุดท้ายกลับเป็นโจรทั้งคู่ และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทั้งคู่ โอ้ อนิจจา เหมือนดั่งเพลง เจ้าพ่อเี่ยงไฮ้ คลื่นัดาด โหมกระหน่ำ สายน้ำไหลเชี่ยรากไม่เคยหยุดนิ่ง ชะล้างเรื่องราบนโลกไปจนหมดสิ้น   กระแสคลื่นหมุนเกลียีทั้งทุกข์ มีทั้งสุข คละเคล้าอยู่ในเกลียคลืนทั้งเสียงหัเราะและเสียงร้องไห้  คาสำเร็จและคามล้มเหล
มิอาจมองออกได้ในกระแสคลื่นนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น