วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563

จีน (1920-2014) หลี่เซี่ยงหลาน ดอกไม้ราตรี ท่ามกลางสงครามโฆษณาชวนเชื่อ (IO)

The Flower of War หลี่เซียงหลาน

9 สิงหาคม 1945 ขณะที่อเมริกากำลังนำระเบิด นิวเคลียร์ลุกที่สองไปทิ้งที่ นางาซากิ อีกฟากของทะเลคือฝั่ง เซี่ยงไฮ้ ผู้คนยังคงเบียดเข้าสู่สนามม้าเพื่อชมคอนเสริต์ของ นักร้องสาววัย 25 ปี หลี่เซี่ยงหลาน โดยเฉพาะเพลงดังของเธอ เพลง "เย่ไหลเซียง" วันที่ 15 สิงหาคม 1945 จักรพรรดิฮิโรฮิโตะ ประกาศยอมแพ้ โดยทำพิธียแพ้ในวันที่ 2 กันยายน 1945 บนเรือมิซูรี่ แต่ไม่กี่วันถัดมา  หลี่เซี่ยงหลาน เธอกลับถูกจับข้อหา เป็นคนทรยศขายชาติ

หลี่เซียงหลาน (李香蘭) ดาวญี่ปุ่นที่จรัสแสงแห่ง เซี่ยงไฮ้   นอกจากนี้เธอยังเป็นนางเอกของชอร์บราเดอร์  เธอได้รับฉายา จูดี้การ์แลนด์ แห่งญี่ปุ่น ก่อนจะถูกตราหน้าว่า เป็น สายลับขายชาติ

หลี่เซี่ยงหลาน ชื่อจริงในตอนแรกเกิด คือ โยชิโกะ ยามาวูจิ   เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1920 แต่เป็นชาวญี่ปุ่นเกิดที่ แมนจูเรีย เขตปกครองของญี่ปุ่น พ่อเป็นวิศวกรสร้างรถไฟที่ย้ายครอบครัวมาจากญี่ปุ่น ชื่อ ฟูมิโอะ ยามางูจิ

ในวัยเด็กเธอป่วยเป็นวัณโรค หมอจึงแนะนำให้เธอเรียนร้องเพลง เพื่อเป็นการออกกำลังกายระบบหายใจไปภายในตัว และเธอยังสนิทกับ เพื่อนชื่อ ลิวปา (Lyubov Yumshanova) ซึ่งครอบครัวของเธอเป็นสมาชิกพรรคบอลเชวิก ทำงานที่สถานกงศุลของโซเวียตอีกด้วย  ทำให้เธอสนใจฝึกร้องเพลงคลาสสิกแบบตะวันตก

ต่อมา เธอเข้าพิธี ยกน้ำชา เพื่อเป็นลุกบุญธรรมของ นายพลหลี่จี้ชุน  เพื่อนของพ่อเธอ ทำให้เขาตั้งชื่อจีนให้กับเธอ ชื่อ หลี่เซี่ยงหลาน แปลว่า ดอกกล้วยไม้ เป็นวันที่เธอดีใจมากที่เธอได้ชื่อเป็นคนจีน

และวันแรกที่เธอได้ขึ้นแสดงต่อหน้าสาธารณชน ก้มาถึง เธอสวมชุดกิโมโนขึ้นร้องครั้งแรก  แต่ คนจีนกลับมองว่า นี่คือ อีกอาวุธที่ญี่ปุ่นใช้โจมตีชาวจีน  อย่างไรก็ดี เธอยังคงได้รับโอกาสให้ร้องเพลงออกอากาศทางวิทยุที่ออกไปทั่วแมนจูเรีย อย่างต่อเนื่อง

อายุ 14 ปี พ่อเธอส่งเธอไปเรียนภาษาจีนที่ปักกิ่ง ที่นี่เธอได้รับการรับเป็นลูกบุญธรรมของ พานอี้กุ้ย (潘毓桂) นายธนาคารที่ร่ำรวยแห่งเทียนจิน ในช่วงนั้นเองเกิดกรณีสะพานมาโคโปโล เมื่อคุณครูถามเด็กนักเรียนทีละคน ว่าหากญี่ปุ่นบุกเข้ามา เธอจะทำอย่างไร เธอตอบทันทีว่า เธอจะไปยืนอยู่บนกำแพงเมืองปักกิ่ง ทุกคนต่างเฮ  แต่เธอมาเฉลยที่หลังว่า  หากเธอขึ้นไปยืนบนกำแพง จะทำให้เธอตายเร็วที่สุดจะได้ไม่ต้องเลือกข้าง เนื่องจาก ญี่ปุ่นเสมือนแผ่นดินพ่อ แต่จีนเสมือนแผ่นดินแม่ เธอไม่สามารถเลือกข้างได้ จึงขอตายเร็วที่สุดเป็นทางออก

แต่ในปี 1937 โยชิโกะ ความชิมะ หรือ เจ้าหญิงตงเจิน ได้ก่อตั้งบริษัท แมนจูกัวฟิลม์ เพื่อนสนิทของ พานอี้กุ้ย แน่นอนว่า  เธอรู้ดีว่า เจ้าของเสียงเพลงที่ขับกล่อมไปทั่วแมนจูกัวนั้นคือ หลี่เซี่ยงหลาน โยชิโกะคาวาชิมะ จึงได้ขอตัว หลี่เซี่ยงหลาน มาเป็นดาราในสังกัด โดยได้แสดงเรื่องแรกคือ Honeymoon Express ในปี 1938 ขณะนั้นเธออายุเพียง  18 ปี

แน่นอนว่า บริษัท แมนจูกัวฟิลม์นั้นไม่ใช่บริษัทสร้างหนังธรรมดา เพราะโยชิโกะ คาวาชิมะ นั้นเป็นถึง สายลับของญี่ปุ่น ทำให้มีเส้นสายกับทหารญี่ปุ่น และการโฆษณาชวนเชื่อในยุคนั้นถือเป็น งานของรัฐบาลญี่ปุ่น หลี่เซี่ยงหลานนั้นถือเป็นวัตถุดิบชั้นดี เนื่องจากเธอพุดได้ทั้งจีนและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีความสามารถร้องเพลงและเล่นหนังเป็นอย่างดี

ดังนั้น บทในหนังทุกเรื่องนั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของรัฐบาลญี่ปุ่น แน่นอนว่า บทส่วนใหญ่ที่เธอได้รับ คือ สาวจีน ที่หลงรักหนุ่มญี่ปุ่น นอกจากนี้ เธอยังเคยเปิดการคอนเสิร์ตที่กรุงโตเกียวในปี 1939 ขณะที่เธออายุเพียง 21 ปี แทบทำให้สนามแตกกันเลยทีเดียว

ในปี 1940 หนังเรื่อง China Night ก็เล่าเรื่อง เด็กหญิงกำพร้าชาวจีนที่ได้รับการอุปการะจากเจ้าหน้าที่เรือเดินสมุทรชาวญี่ปุ่นที่จิตใจดี แน่นอนว่า ครั้งแรก เธอย่อมเกลียดชังชาวญี่ปุ่นในตอนแรก แต่สุดท้ายก็กลับไปตกหลุมรักชาวญี่ปุ่น หนังเรื่องนี้เองที่สร้างปัญหาให้กับเธอในภายหลัง

ในปี 1942 แมนจูกัวก็สร้างหนังเรื่อง A Good Name for Generations เธอทั้งเล่นทั้งร้อง เพลงดังอย่าง ไม่ถังเกอ และ เจี้ยเอียนเกอ ที่โด่งดังไปทั่วประเทศจีน ถึงขนาดมีข่าวลือว่า เหมาเจ๋อตุง ต้องดูหนังเรื่องนี้ภายในถ้ำที่เยนอาน ขณะที่เจียงไคเช็กก็ต้องดูหนังเรื่องนี้ในฉงชิ่ง

ในปี 1944 แมนจูกัวฟิลม์ ถอนตัวไป ทำให้หลี่เซี่ยงหลาน ได้รับอิสระ เธอย้ายไปร่วมงานกับ บริษัทจงหัวที่เซี่ยงไฮ้  แต่เซี่ยงไฮ้ยุคนั้น อยู่กันด้วยความยากลำบาก เพราะเพิ่งโดนญี่ปุ่นถล่มมาไม่นาน แต่เธอก็ยังร้องเพลง เย่ไหลเซียง หรือ ดอกราตรี  ประโยค เย่ไหลเซียง หว่อ เหว่ย หนี่ อ้ายซาง (เจ้าดอกราตรี ฉันร้องเพลงนี้ให้เจ้าได้ฟัง) ก็ดังกระหึ่มทั่วทั้งเมืองเซียงไฮ้ และส่งให้เธอเป็น หนึ่งใน 7 ดาวจรัสแสงแห่งเซี่ยงไฮ้ในยุคนั้น

วันที่ 6 กันยายน 1945 ญี่ปุ่นประกาศแพ้สงคราม ชาวจีนที่โกรธแค้นชาวญี่ปุ่นต่างนำธงญี่ปุ่นมาเหยียบย่ำ (รวมถึงประเทศไทยด้วย) แต่เธอกลับเสียใจหลังจากนั้นไม่นาน เธอถูกจับในฐานะคนขายชาติ

โยชิโกะ คาวาชิมะ หรือเจ้าหญิงตงเจิน เจ้าของบริษัทแมนจูกัวฟิลม์ เธอคือสายลับของรัฐบาลญี่ปุ่น และหลี่เซียงหลานไป คบค้าสมาคมกับสายลับชาวญี่ปุ่น เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ โยชิโกะ คาวาชิมะ นั้นเป็นคนจีน เชื้อราชวงศ์ชิง ต้องพิสูจน์ว่า ตนเองคือคนญี่ปุ่น เพื่อยืนยันว่า เธอไม่ใช่คนจีนขายชาติ โดยเธอพยายามติดต่อพ่อบุญธรรมชาวญี่ปุ่นเพื่อยืนยัน แต่สุดท้ายเธอถูกพิพากษาประหารชีวิต

เช่นเดียวกับ หลี่เซียงหลาน เธอพยายามพิสูจน์ว่า เธอเป็นคนญี่ปุ่น เธอชื่อ โยชิโกะ ยามางูจิ มาแต่กำเนิด ในตอนนั้น พ่อแม่ของเธอจะมายืนยันว่า เธอเป้นคนญี่ปุ่นก็ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะถูกจับในฐานะเฃลยสงคราม วันที่ 8 ธันวาคม 1945 ทางการจีนพิพากษาประหารชีวิต หลี่เซี่ยงหลาน ที่สนามม้าเมืองเซี่ยงไฮ้

แต่กรณีของเธอกลับเกิดปาฎิหารย์  คือ มีเจ้าหน้าที่สถานกงสุลของโซเวียต มาพบเธอ นั่นคือ ลิวปา เพื่อในวัยเยาว์ของเธอ ขอเข้าพบเธอ และพุดคุยเพียงเล็กน้อย แต่ไม่กี่วันถัดมา มีของขวัญชิ้นหนึ่ง คือตุ๊กตาญี่ปุ่นที่เธอเคยให้กับลิวปาในวัยเด็กถูกส่งมาให้เธอ  เธอคิดว่า ลิวปา คงส่งมันคืนมาให้เธอในวาระสุดท้าย แต่เมื่อเธอแกะมันออก กลับมีกระดาษซ่อนอยู่ มันคือ สำเนาทะเบียนราษฎร์ ที่ระบุชัดเจนว่า เธอคือ ชาวญี่ปุ่นชื่อ โยชิโกะ ยามากูชิ

และกระดาษชิ้นนี้เอง ที่ ศาลเมืองเซี่ยงไฮ้ยกฟ้อง หลี่เซียงหลาน และส่งเธอกลับญี่ปุ่น เมื่อเธอกลับไปญี่ปุ่น เธอยังคงมีอาชีพเป็นนักแสดง โดยได้เล่นเรื่อง Scandal ในปี 1950 ของอาคิระ คุโรซาวะอีกด้วย

ในช่วงปี 1955-1958 เธอกลับมารับงานแสดงที่ฮ่องกง  ในเรื่อง นางพญางุขาว 1956 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง โตโฮ กับชอว์บราเดอร์  ต่อมาเธอได้แต่งงานกับ ฮิโรชิ โอตากะ นักการฑูตชาวญี่ปุ่น ในปี 1958 แล้วก็ลาวงการไป

แต่แล้วเธอกลับไปเล่นการเมือง ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาสูงของญี่ปุ่น ถึง 3 สมัย รวม 18 ปี เธอมักจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญีปุ่นอยู่เสมอ  เมื่อมีนักข่าวญี่ปุ่นถามเธอเกี่ยวกับหนังเรื่อง  China Night นั้น เธออธิบายว่า ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก และหากรู้ว่าตัวเองจะเป็นเครื่องมือทางสงคราม เธอคงไม่ทำเช่นนั้น เธอก้มหัวยอมรับผิด และอธิบายว่า เธอมักจะคิดว่า คนจีนคงไม่ให้อภัยเธอ เธอรู้สึกผิด แต่ อดีตนั้นมิอาจแก้ไข แต่ควรสร้างสิงใหม่ที่ดีกว่า นอกจากนี้เธอยังเป็นคนแรกที่ออกมาเรียกร้องให้ญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยให้กับหญิงสาวชาวจีน อีกด้วย 

ต่อมา เธอเลือกที่จะกลับประเทศจีน และเยี่ยมเยียนคนรู้จัก พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองประเทศ  นอกจากนี้ เธอยังได้พบกับ ลิวปา เพื่อนเก่า ในปี 1998

วันที่ 7 กันยายน 2014 ณ กรุงโตเกียว หลี่เซียงหลาน เสียชีวิตในบ้านพักของเธอด้วยโรคชรา สิริอายุ 94 ปี

ทุกวันนี้ เพลง เย่ไหลเซียง ยังคงดังไปทั่วทุกมุมโลก  เจ้าดอกราตรี ฉันจะร้องเพลงนี้ให้เจ้าฟัง

อีกมุมหนึ่งถ้าเป็น เรื่องคู่กรรมของทมยันตี ที่ สาวไทยชื่อ  อังศุมาลิน ไปหลงรักทหารเรือญี่ปุ่นชื่อ  โกโบริ  ที่เหตุการณ์เกิดระหว่างช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2......... คนไทยจะคิดว่า นี่คือ ปฎิบัติการ Information Operation หรือ IO ของรัฐบาลญี่ปุ่นหรือไม่  แต่ไม่ใช่หรอกครับ เพราะเรื่องนี้ แต่งขึ้นในปี 2508 หรือ หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศแพ้สงครามไปแล้ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น