เนื้อเรื่องตามไซอิ๋ว
คณะเดินทางแสวงบุญเดินทางมาถึงหมู่บ้านเกาเล้าจึง
ที่กำลังประกาศหาคนมาปราบปีศาจ
เนื่องจาก เศรษฐีเก้าท้ายกง
มีลูกสาว 3
คน
ลูกสาวเศรษฐีถูกปีศาจจับตัวไป
พระถังซำจั๋ง เห็นว่าหงอคงน่าจะช่วยได้
จึงให้หงอคงช่วย
หงอคงถามไถ่กับเศรษฐีได้ความว่า
เมื่อหลายเดือนก่อน
มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาในหมู่บ้าน
แรกเริ่มเดิมทีเขาเป็นขยันขันแข็ง
กินเจ และไม่ทานเนื้อ
ทำให้เศรษฐีพอใจในตัวชายหนุ่มมากจึงแนะนำลูกสาวให้รู้จัก
ลูกสาวก็พอใจในชายหนุ่ม
เศรษฐีจึงจัดงานแต่งงานให้ทั้งคู่
แต่อยู่ๆ ไป ชายหนุ่มก็ไม่ขยันเหมือนเดิม
ทั้งกินเนื้อสัตว์ และกินเหล้า
นอกจากนี้ยังกินเก่งขึ้นทุกทีๆ
จนอยู่มาคืนหนึ่ง
ลูกสาวก็ร้องเสียงดังมาจากห้องหอ
ชายหนุ่มกลายเป็นปีศาจหมู
พอเศรษฐีกับคนรับใช้หมายจะเข้าไปช่วย
แต่ไม่อาจสู้ปีศาจหมูได้
เพราะมีคราดวิเศษ 9
ซี่
ทำให้ทั้งลูกสาวและปีศาจหมูอาศัยอยู่บนห้องนอนชั้นบน
แต่หลายครั้งที่ปีศาจหมูจะกลายร่างเป็นลมพายุหายตัวออกไปนอกบ้าน
เห้งเจีย เลยคิดแผน โดยเขาขึ้นไปช่วยลูกสาวเศรษฐีลงมาแล้วปลอมตัวเป็นบุตรีเศรษฐีแทน พอปีศาจหมูกลับมาเห้งเจียในร่างแปลงก็พยายามหลอกล่อปีศาจหมู จนปีศาจหมูผิดสังเกต เห้งเจียจึงเผยตัวและสู้กับปีศาจหมู
พระโพธิสัตว์กวนอิมเสด็จมาห้ามและบอกว่า ปีศาจหมูตนนี้เป็นศิษย์ที่พระพุทธองค์เลือกไว้ให้ร่วมเดินทางไปแสวงบุญ โดยสั่งให้รักษาศีล 8 เพื่อรอไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่เมืองไซทีพร้อมกัน ปีศาจหมูเล่าถึงอดีตอันน่าเศร้าว่า เดิมทีเป็นคนโง่เขลา เกียจคร้าน เที่ยวกินดื่ม มั่วในกามคุณ ต่อมาได้ฤาษีสั่งสอน ข้าชอบใจจึงได้พร่ำอ่านร่ำเรียนจนสำเร็จฌาณ ได้เข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ และได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพเทียนฟง ผู้คุ้มแม่น้ำทีฮ้อ เมื่อครบรอบ 3000 ปี เจ้าแม่สวรรค์ตะวันตก ฮ่องโป๊เนี่ยเนี้ย( 西王母หรือซีหวังหมู่) ต้องจัดงานเลี้ยงฉลองลูกท้อ ข้ากลับดื่มสุราจนหนักไป เคลิบเคลิ้มไม่รู้สึกผิดชอบ จึงไม่มีความละอายและไปจีบล้อกับนางฟ้านามว่า "ฉางเอ๋อ เทพแห่งดวงจันทร์" เข้า นางกลับโกรธและเอาเรื่องไปทูลฟ้องเง็กเซียนฮ่องเต้ เง็กเซียนฮ่องเต้ตัดสินลงโทษสถานหนักให้ลงมาเกิดบนโลก แต่ดันไปเกิดในครรถ์หมู และได้ชื่อว่า ตือกังเจีย (猪刚鬛หมูขนแข็ง) และได้อธิบายว่า อาวุธคราดของเขา เกิดจากฟ้าดิน และฤดูกาลทั้งสาม อาบทั้งแสงจันทร์และแสงอาทิตย์ เป็นคราดวิเศษ 9 ซี่ ชื่อ เซียงโป๊กิมป่า (九齿) ที่ได้มอบให้เง็กเซียนฮ่องเต้ไว้ควบคุมทหาร ต่อมาจึงมอบให้แก่แม่ทัพก็คือ เขานั่นเอง โดยเขาเล่าว่าเขายังสามารถแปลงกายได้ 36 อย่าง และเหาะเหินไปมาได้ด้วย
แต่ตัวเขากลับมาตบะแตก เพราะความงามของ ลูกสาวเศรษฐีเสียก่อน พระถังซำจั๋ง จึงรับปีศาจหมูเป็นศิษย์ และตั้งนามใหม่ให้ แต่เขาแย้งว่า พระกวนอิม ได้ตั้งฉายาใหม่ให้เขาแล้วชื่อ ตือหงอเหนง และขออาจารย์ออกจากศีล 8 และออกเจได้หรือไม่ พระถังกล่าวว่า “เดิมได้กินเจ แต่จะมากลับใจหามิควรไม่ ข้าขอเรียกเจ้าเป็น ศีล 8 (โป๊ยก่าย) ละกัน จะได้เรียกใช้ง่ายดี เศรษฐีได้เข้าใจปีศาจหมูดีแล้ว ก็ยินดีกับลูกเขย และได้มอบรองเท้าให้แก่เห้งเจีย และโป๊ยก่าย คนละคู่
ปริศนาธรรมไซอิ๋ว
ข้อแรก ที่หลายคนสงสัย คือ ทำไมต้องศีล 8 ? เพราะศีล 8 นั้นเป็นศีลขั้นต่ำสุดของ อนาคามี โดยศีลนั้น เป็นเพียงกติกา หรือข้อจำกัด เพื่อใช้ควบคุมได้เพียง กาย วาจา เท่านั้น แต่ทางจิตนั้นกลับยังไม่สามารถควบคุมได้ ต้องเสริมด้วยการฝึก สมาธิ อีก จึงจะครบ
ศีล นั้นแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
1. จุลศีล มี 2 อย่าง คือ ศีล5 และ อาชีวัฏฐมกศีล
2. มัชฌิมศีล (ศีลอย่างกลาง) ได้แก่ อัฏฐศีล (ศีล8 ) และทสศีล (ศีล 10 สำหรับสามเณร)
3. มหาศีล (ศีลอย่างสูง) แยกเป็น ภิกษุณีวินัย (ศีล 311) และ ภิกษุวินัย (ศีล 227)
โดยในชื่อของตือโป๊ยก่าย คือ ศีล 8 ซึ่งยังถือเป็นศีลของ บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สงฆ์ มีดังนี้
1. เว้นจากการฆ่าสัตว์
เห้งเจีย เลยคิดแผน โดยเขาขึ้นไปช่วยลูกสาวเศรษฐีลงมาแล้วปลอมตัวเป็นบุตรีเศรษฐีแทน พอปีศาจหมูกลับมาเห้งเจียในร่างแปลงก็พยายามหลอกล่อปีศาจหมู จนปีศาจหมูผิดสังเกต เห้งเจียจึงเผยตัวและสู้กับปีศาจหมู
พระโพธิสัตว์กวนอิมเสด็จมาห้ามและบอกว่า ปีศาจหมูตนนี้เป็นศิษย์ที่พระพุทธองค์เลือกไว้ให้ร่วมเดินทางไปแสวงบุญ โดยสั่งให้รักษาศีล 8 เพื่อรอไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่เมืองไซทีพร้อมกัน ปีศาจหมูเล่าถึงอดีตอันน่าเศร้าว่า เดิมทีเป็นคนโง่เขลา เกียจคร้าน เที่ยวกินดื่ม มั่วในกามคุณ ต่อมาได้ฤาษีสั่งสอน ข้าชอบใจจึงได้พร่ำอ่านร่ำเรียนจนสำเร็จฌาณ ได้เข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ และได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพเทียนฟง ผู้คุ้มแม่น้ำทีฮ้อ เมื่อครบรอบ 3000 ปี เจ้าแม่สวรรค์ตะวันตก ฮ่องโป๊เนี่ยเนี้ย( 西王母หรือซีหวังหมู่) ต้องจัดงานเลี้ยงฉลองลูกท้อ ข้ากลับดื่มสุราจนหนักไป เคลิบเคลิ้มไม่รู้สึกผิดชอบ จึงไม่มีความละอายและไปจีบล้อกับนางฟ้านามว่า "ฉางเอ๋อ เทพแห่งดวงจันทร์" เข้า นางกลับโกรธและเอาเรื่องไปทูลฟ้องเง็กเซียนฮ่องเต้ เง็กเซียนฮ่องเต้ตัดสินลงโทษสถานหนักให้ลงมาเกิดบนโลก แต่ดันไปเกิดในครรถ์หมู และได้ชื่อว่า ตือกังเจีย (猪刚鬛หมูขนแข็ง) และได้อธิบายว่า อาวุธคราดของเขา เกิดจากฟ้าดิน และฤดูกาลทั้งสาม อาบทั้งแสงจันทร์และแสงอาทิตย์ เป็นคราดวิเศษ 9 ซี่ ชื่อ เซียงโป๊กิมป่า (九齿) ที่ได้มอบให้เง็กเซียนฮ่องเต้ไว้ควบคุมทหาร ต่อมาจึงมอบให้แก่แม่ทัพก็คือ เขานั่นเอง โดยเขาเล่าว่าเขายังสามารถแปลงกายได้ 36 อย่าง และเหาะเหินไปมาได้ด้วย
แต่ตัวเขากลับมาตบะแตก เพราะความงามของ ลูกสาวเศรษฐีเสียก่อน พระถังซำจั๋ง จึงรับปีศาจหมูเป็นศิษย์ และตั้งนามใหม่ให้ แต่เขาแย้งว่า พระกวนอิม ได้ตั้งฉายาใหม่ให้เขาแล้วชื่อ ตือหงอเหนง และขออาจารย์ออกจากศีล 8 และออกเจได้หรือไม่ พระถังกล่าวว่า “เดิมได้กินเจ แต่จะมากลับใจหามิควรไม่ ข้าขอเรียกเจ้าเป็น ศีล 8 (โป๊ยก่าย) ละกัน จะได้เรียกใช้ง่ายดี เศรษฐีได้เข้าใจปีศาจหมูดีแล้ว ก็ยินดีกับลูกเขย และได้มอบรองเท้าให้แก่เห้งเจีย และโป๊ยก่าย คนละคู่
ปริศนาธรรมไซอิ๋ว
ข้อแรก ที่หลายคนสงสัย คือ ทำไมต้องศีล 8 ? เพราะศีล 8 นั้นเป็นศีลขั้นต่ำสุดของ อนาคามี โดยศีลนั้น เป็นเพียงกติกา หรือข้อจำกัด เพื่อใช้ควบคุมได้เพียง กาย วาจา เท่านั้น แต่ทางจิตนั้นกลับยังไม่สามารถควบคุมได้ ต้องเสริมด้วยการฝึก สมาธิ อีก จึงจะครบ
ศีล นั้นแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
1. จุลศีล มี 2 อย่าง คือ ศีล5 และ อาชีวัฏฐมกศีล
2. มัชฌิมศีล (ศีลอย่างกลาง) ได้แก่ อัฏฐศีล (ศีล8 ) และทสศีล (ศีล 10 สำหรับสามเณร)
3. มหาศีล (ศีลอย่างสูง) แยกเป็น ภิกษุณีวินัย (ศีล 311) และ ภิกษุวินัย (ศีล 227)
โดยในชื่อของตือโป๊ยก่าย คือ ศีล 8 ซึ่งยังถือเป็นศีลของ บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สงฆ์ มีดังนี้
1. เว้นจากการฆ่าสัตว์
2.
เว้นจากการลักทรัพย์
3.
เว้นจากประพฤติผิดในพรหมจรรย์
และ เว้นจากเรื่องที่ทำให้จิตเศร้าหมอง
4.
เว้นจากการพูดโกหก
หยาบคาย ส่อเสียด เพ้อเจ้อ
5.
เว้นจากการเสพสุรา
อันเป็นที่ตั้งของความไม่ระมัดระวัง
6.
เว้นจากการกินในยามวิกาล
(หลังเที่ยงวันถึงรุ่งเช้าของวันใหม่)
7.
เว้นจากการฟ้อนรำ
ขับร้อง ประโคมดนตรี
และประดับร่างกายด้วย ดอกไม้
ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา
เครื่องย้อม
8.เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียงตั่งที่เท้าสูงเกิน
ภายในมีนุ่น หรือ สำลี
ในตอนแรกก่อนที่ โป๊ยก่าย จะมาพบกับ เห้งเจีย และพระถัง นั้น พระกวนอิม สั่งให้ โป๊ยก่าย ถือศีล 8 และกินเจ แต่เนื่องจาก ศีล นั้น ยังไม่ได้รับการอบรมที่ดีพอ ทำให้โป๊ยก่ายนั้นอดทนอยู่ในศีลได้เพียง 3 ปี ตบะก็แตก ทำให้ผิดศีล นั่นคือ โป๊ยก่าย ทั้ง กินเนื้อสัตว์ เสพสุรา ร้องรำ กินมากไป นอนบนเตียง ประพฤติในกาม ซึ่งทำให้ความแตก (บางคนมองว่า โป๊ยก่ายคือ ศีล ต้องมาพบกับ พระถัง (ขันติ) และม้ามังกร (ความเพียร) จึงจะสามารถรักษาศีลไว้ได้)
โดยอาวุธของ ตือโป๊ยก่ายนั้น คือ คราด 9 ซี่ ซึ่งเปรียบเสมือน อาวุธของศีล คือ สังฆคุณ 9 เพื่อให้การรักษาศีลนั้นมีพลังมากขึ้น ประกอบด้วยการปฎิบัติตามแนวทาง ดังนี้
ในตอนแรกก่อนที่ โป๊ยก่าย จะมาพบกับ เห้งเจีย และพระถัง นั้น พระกวนอิม สั่งให้ โป๊ยก่าย ถือศีล 8 และกินเจ แต่เนื่องจาก ศีล นั้น ยังไม่ได้รับการอบรมที่ดีพอ ทำให้โป๊ยก่ายนั้นอดทนอยู่ในศีลได้เพียง 3 ปี ตบะก็แตก ทำให้ผิดศีล นั่นคือ โป๊ยก่าย ทั้ง กินเนื้อสัตว์ เสพสุรา ร้องรำ กินมากไป นอนบนเตียง ประพฤติในกาม ซึ่งทำให้ความแตก (บางคนมองว่า โป๊ยก่ายคือ ศีล ต้องมาพบกับ พระถัง (ขันติ) และม้ามังกร (ความเพียร) จึงจะสามารถรักษาศีลไว้ได้)
โดยอาวุธของ ตือโป๊ยก่ายนั้น คือ คราด 9 ซี่ ซึ่งเปรียบเสมือน อาวุธของศีล คือ สังฆคุณ 9 เพื่อให้การรักษาศีลนั้นมีพลังมากขึ้น ประกอบด้วยการปฎิบัติตามแนวทาง ดังนี้
1.สุปฏิปันโน
เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว
2.อุชุปฏิปันโน
เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว
3.ญายปฏิปันโน
เป็นผู้ฏิบัติเป็นธรรม
4.สามีจิปฏิปันโน
เป็นผู้ปฏิบัติสมควร
5.
อาหุเนยโย
เป็นผู้ควรของคำนับ
6.ปาหุเนยโย
เป็นผู้ควรแก่เครื่องสักการะที่จัดไว้ต้อนรับ
7.ทักขิเนยโย
เป็นผู้่ควรแก่ของทำบุญรับทักษิณาทาน
8.อัญชลิกรณีโย
เป็นผู้ควรทำอัญชลีกราบไหว้ได้สนิทใจ
9.
อนุตตรัง
ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ
เป็นนาบุญของโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น