วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ปริศนาธรรม ไซอิ๋ว ตอนที่ 11 ปีศาจหนูขนเหลือง (黃風怪)

ปริศนาธรรม ไซอิ๋ว ตอนที่ 11 ปีศาจหนูขนเหลือง


ปีศาจลมเหลือง (黃風怪) อาศัยในถ้ำลมเหลือง (黃風洞) ที่ภูเขาลมเหลือง (黃風嶺) เดิมเป็นหนูในสวรรค์ แต่สำเร็จญาณสมาธิในการใช้ลม ต่อมาได้ลักลอบกินน้ำมันจุดบูชาพระพุทธเจ้า จึงหนีจากสวรรค์ลงมา อยู่ที่เขาลมเหลือง ตั้งตัวเป็นอ๋อง เขาจับพระถังซัมจั๋ง และวางแผนจะกินพระถัง เห้งเจียต้องไปขอความช่วยเหลือจาก พระโพธิสัตว์ เล่งเกี๊ยด มาปราบปีศาจและนำเขากลับไปรับโทษที่สวรรค์

เนื้อเรื่องในไซอิ๋ว

คณะแสวงบุญเดินทางมาถึงภูเขาที่มียอดเขาสูงเทียมเมฆ มีลมพัดแรงมา เห้งเจียทักว่า ในสายลมมีกลิ่นปีศาจ ทันใดนั้นก็มีเสือตัวหนึ่งกระโจนเข้ามา เห้งเจียและโป๊ยก่ายก็ตะโกนว่า ไอ้เสือแกจะไปไหน แล้วก็ช่วยกันรุม เสือสู้ไม่ได้ก็ถอดคราบเสือทิ้ง กลายเป็นคนหัวเสือถือมีดสั้น 2 ด้าม เขาสู้กับเห้งเจียและโป๊ยก่าย สู้ไปหนีไป เมื่อทั้งคู่เผลอ หมนุษย์เสือก็ลอกคลาบเป็นก้อนหินหลอกเห้งเจียและโป๊ยก่าย แล้วตัวเสือก็แปลงเป็นลมพายุหอบเอาพระถังที่กำลังท่องพระสูตรไปหา ปีศาจอี้งฮองไต้อ๋อง หรือ ปีศาจหนูขนเหลือง ปีศาจลมเหลือง (น้องชายของเอ็กฮองไต้อ๋อง ปีศาจหมีดำ หรือปีศาจลมดำ)

ปีศาจหนูขนเหลือง เห็น เซียฮอง ทหารเอกของตนกลับมาพร้อมพระถัง ก็ถามไถ่ว่า ได้ข่าวว่า พระถังมาพร้อมศิษย์ที่เก่งมาก 2 คนเพิ่งจัดการกับพี่ชายคือ เอ็กฮองไต้อ๋องไป เซียนฮอง ตอบกลับไปว่า ทั้งสอง ข้าเพิ่งปะมือมา ทั้งคู่แข็งแกร่งมาก ปีศาจหนูขนเหลือง จึงให้จับพระถังมัดไว้เป็นตัวประกันก่อน

เมื่อทั้งคู่ตามมาที่ถ้ำลมเหลือง เซียนฮอง ออกมาสู้กลับโดนโป๊ยก่ายฆ่าด้วยคราดวิเศษ 
ปีศาจหนูขนเหลือง ออกมาสู้แบบใจสั่นๆ ในชื่อเสียงของเห้งเจีย สู้กันได้สักพัก เห้งเจียเสกขนเป็นลูกน้องมาช่วยสู้ แต่หนูขนเหลืองก็ใช้ปากพ่นลมพิษ เห้งเจียเสียทีถูกลมของปีศาจปลิวไปตามลม ลมพิษถูกตาทั้งสองข้าเจ็บปวดทรมาน ตาเกือบบอด พอดีเทพารักษ์ เจ้าแม่เขาไท่ซาน ผ่านมา ได้อธิบายกับเห้งเจียว่า ลมพิเศษที่โดนเข้าไปนี้ แม้เทวดาโดนเข้าก็เศร้าหมอง หากโดนมนุษย์อาจถึงตายได้ และได้ให้ยาหยอดตาช่วยพยาบาล โดยให้ทาตาแล้วต้องหลับตาห้ามเปิด 1 คืนจึงจะหายได้ เห้งเจียจึงหลับตาเพ่งสมาธิสำรวมในสุข 1 คืนจึงหาย และสายตากลับมาดีดั่งเดิม 

เห้งเจียแอบแปลงเป็นแมลงเข้าไปสืบข่าวในถ้ำ ได้ยิน ปีศาจหนูบ่นออกมาว่า เห้งเจียอาจตายไปแล้ว แต่ข้ากลัว เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์ มากที่สุด ต่อมาทั้งคู่จึงเหาะไปนิมนต์ เล่งเกี๊ยดโพธิสตว์ (靈吉菩薩) แห่งเขาเซียนซูหนี่ซัว (ผู้เป็นเอกด้านการเทศน์) แล้วพามาหน้าถ้ำของปีศาจหนูขนเหลือง เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์ ได้ให้ยาบำบัดลมเม็ดหนึ่ง และได้ขว้างไม้ตะบองมังกรทองออกไป กลายเป็นมังกร 8 เล็บ เข้าจับตัวปีศาจไว้ในอุ้งเล็บทั้ง 8 เห้งเจีย เข้าไปจะฆ่าปีศาจหนู แต่เล่งเกี๊ยด โพธิสัตว์ห้ามไว้ โดยจะจับตัวไปถวายพระเซ็กเกี่ยมมองนีฮุดโจ๊ว

โดยเล่าว่า เดิมปีศาจหนูขนเหลือง นี้เป็นหนูที่ปฎิบัติธรรมมายาวนาน ต่อมาขโมยกินน้ำมันจุดบูชาพระพุทธองค์ ได้หนีการทำผิดมาเกิดเป็นปีศาจหนูขนเหลืองสร้างความวุ่นวายที่นี่ จำต้องจับตัวไปลงโทษตามพุทธบัญชา

เมื่อ เล่งเกี๊ยดโพธิสัตว์ พาปีศาจไปแล้ว เห้งเจียกับโป้ยก่ายก็ช่วยกันทลายถ้ำ และฆ่าสมุนปีศาจเสียสิ้น แก้มัดพระถังแล้วก็ออกเดินทางต่อไป

ปริศนาธรรม
ตอนแรก เซียนฮอง ปลอมตัวมาโดยหุ้มหนังเสือ (เหลือง) ในความหมายคือ นุ่งห่มเหลือง ปลอมตัวมาเป็นคนดี เหมือนกับตอน ปีศาจหมีดำ ที่นุ่งห่มจีวร แต่ต่อมาได้ใช้มีด 2 ด้าม (วิพากย์ - พิพาก และวิจารณ์ - ติชม) แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และโดนโป๊ยก่าย (ศีล) ฆ่าตาย

ต่อมา ปีศาจหนูเหลือง โจมตีด้วย ลมพิษ (วจีทุจริต) ทำให้เห้งเจีย ตาบอด ที่เทพารักษ์บอกว่า แม้แต่เทวดายังเศร้าหมอง (เปรียบคำพังเพยไทย แม้องค์พระปฎิมายังราคิน คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา) ทางแก้ของวาจามทุจริต คือ การนอนพัก และสำรวมจิตในความสุข หากยังรับรู้เรื่องต่างๆ ตาก็จะยังคงมืดบอดต่อไป


วจีทุจริต 4 คือ พูดเท็จ พูดหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ มักเกิดจาก จิตที่คิดอกุศล นอกจากนี้ยังเกิดจากความประมาท จำเป็นต้องใช้สติและปัญญา ให้ระลึกเสมอในขณะพูดจา

ต่อมาวิธีปราบ ได้ไปนิมนต์ เล่งเกี๊ยดโพธิสตว์ (ผู้ใช้วาจาในทางที่ดี คือเทศน์) โดยท่านได้ใช้ มังกร 8 เล็บ (ปกติมังกรจะมีแค่ 4 – 5 เล็บเท่านั้น) นั่นคือ ใช้มรรคมีองค์ 8 มาปราบ โดยที่นี้จะยกมาเพียง3 ข้อ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
1.
สัมมาทิฐิ (ความเห็นที่ถูกต้อง หรือ ความรู้ที่ถูกต้อง)
2.
สัมมาสังกัปปะ (ความคิดที่ถูกต้อง)
3. สัมมาวาจา (วาจาที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากการพูดเท็จ หยาบคาย ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ

หมายเหตุ ในเนื้อเรื่อง ความจริงแล้ว โป๊ยก่าย (ศีล) จะต้องสามารถปราบหนูขนเหลือง (วจีทุจริต) ได้ แต่เพราะเห้งเจียสั่งให้โป๊ยก่าย เฝ้าของ และม้า เลยไม่ได้ตามมาสู้ที่ถ้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น