วันนี้ขอเล่าเรื่อง เฉินฉีเหม่ย แต่จะขอเฉลย เรื่องตัวจริง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ก่อนครับ คราวก่อนเหมือนลืมเล่าหลายอย่างครับ
หนัง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ น้้น ผสมผสานบุคลิกของตัวจริงในประวัติศาสตร์ ให้เข้ากับบุคลิกในนิยายมากกว่า ที่จะเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์แบบแท้ๆ
ตัวเอกของเรื่องนี้ คือ สวีเหวินเฉียง เป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่เข้าร่วมการประท้วง ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต่อมาถูกจำคุก 3 ปี ทำให้ความรู้สึกเขาคือ การประท้วงที่ผ่านมามันเป็นเรื่องไร้สาระ หลังออกจากคุก เขามุ่งหน้าไปที่ เซี่ยงไฮ้ นครแห่งโอกาสในยุคนั้น ที่นั่นเองเขาได้พบกับติงลี่ คนขายสาลี่ในสลัม เหมือนกับชีวิตจริงของตู้เย่วชิง หนึ่งในเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่ได้ฉายาตอนต้นว่า ลูกแพรเย่ว์ชิง ก่อนที่จะเป็น ตู้หูใหญ่ โดยเขามีพี่น้อง ที่สนิทกันมากคือ สวีเปาชู (xu baushu) หรือฉายา มิสเตอร์ สวี่
ติงลี่นั้นฝันอยากเป็นเหมือนฝงจิ้งเหยา เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ในยุคนั้น ซึ่งฝงจิ้งเหยา นั้นคือ ผู้ทรงอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้ ที่คบค้าสมาคมกับ คุณนายทากามาดะ ทีเ่ป็นสายลับญี่ปุ่น โดยเป็นคนจีนที่ไปเติบโตที่ญี่ปุ่น นั่นคื อ โดยคาดว่า ฝงจิ้งเหยา นั้น เหมือกัน จางเสี่ยวหลิน ที่เป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่ไปคบค้าสมาคมกับญี่ปุ่น
ขณะที่องค์หญิงตงเจิน ที่เคยทำคลิปนั้นก็ไปคล้ายกับ คุณนายทากามาดะ
แต่ที่จบไม่เหมือนกันคือ เขาแค่เคยวางแผนลอบสังหาร จางเสียวหลิน เท่านั้น ขณะที่เขาเสียชีวิตจากการที่โดนสายลับญ๊่ปุ่นสังหาร
บ่ายวันที่ 18 พฤษภาคม 1916 เสียงปืนดังหลายนัดในบ้านเลขที่ 14 ถนนตั้นสุ่ยลู่ 淡水路 แต่ในสมัยนั้น ถนนสายนี้ยังใช้ชื่อเดิมว่า ถนนซาพอไซ่ 萨坡赛 อยู่ในเขตเช่าฝรั่งเศส เสียงปืนเหล่านี้เป็นการลอบสังหาร ผู้ที่ได้ฉายาว่า ”ราชาแห่งการลอบสังหาร” เฉินฉีเหม่ย 暗杀之王 陈其美
เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเขตเช่าฝรั่งเศสเร่งมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าของคดีเป็น นายตำรวจชื่อ หวงจินหรง 黄金荣 หรือ”หวงหน้าปรุ” ที่ในเวลาต่อมา เขากลายเป็น 1 ใน 3 เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้แห่งแก๊งชิงปัง (อีกสองคนคือ ตู้เยว่เซิง 杜月笙 และ จางเซียวหลิน张啸林)
เฉินฉีเหม่ย ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นถึงสมาชิกระดับสูงของกลุ่มปฎิวัติ ถงเหมิงฮุ่ย 同盟会 เขาถือเป็นระดับแขนขาของ ดร. ซุนยัดเซ็น นอกจากนี้เขายังมีความสัมพันธ์อันดีกับ แก๊งชิงปัง แก๊งใต้ดินที่มีอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้อีกด้วย ดังนั้น การตายของเขาย่อมไม่ธรรมดา แล้วใครหน้าไหนถึงกล้าปลิดชีพบุคคลระดับนี้?
ประวัติ
เฉินฉีเหม่ย พื้นฐานเป็นคนเจ้อเจียง เขาเกิดในตระกูลพ่อค้าที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรมาก เกิดเมื่อ มกราคม ค.ศ. 1878 สมัยเด็กเป็นเด็กเป็นเด็กเกเร ตอนอายุ 15 เมื่อพ่อเสียชีวิตลง เฉินก็ออกมาโลดแล่น
ในปี 1901 หลังจากที่ ราชวงศ์ชิง ลงนามสงบศึกกับต่างชาติในกรณีกบฎอี้เหอถวน ทำให้ประชาชนยากจนลงอีก ปี 1902 ประชาชนจีนก็ไม่ทนต่อราชวงศ์ชิง โดยเริ่มต้นก่อกบฎไปทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นจากที่ หู่เป่ย์ ไป เหอเป่ย์ ถัดมา 2 ปี เซี่ยถิงอี้ นำกำลังชาวนาบุกยึด ทำลายที่ทำการอำเภอ สำนักงานเก็บภาษี และโบสถ์ฝรั่งหลายแห่ง
ปีนั้นเอง พี่ชายของ เฉินฉีเหม่ย เพิ่งเดินทางกลับจากญี่ปุ่น พี่ชายของเขาได้ไปพบความเจริญที่ญี่ปุ่น จึงเล่าเรื่องที่ญี่ปุ่นให้กับ เฉินฉีเม่ย ฟัง นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของ "ราชาแห่งการลอบสังหาร"
ปีถัดมาคือ ปี 1903 เฉินเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตที่เซี่ยงไฮ้ มหานครแห่งโอกาส โดยเริ่มต้น อาชีพด้วยการเป็นเสมียนในร้านค้าแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้น เฉินฉีเม่ย ก็ได้เข้าเป็นสมาชิก ของ ชิงปังอีกด้วย
วันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1904 ซุนยัดเซ็น ก็ก่อตั้ง กลุ่มพันธมิตรจีน ชื่อ จงกว๋อ ถงเหมิงฮุ่ย โดยดร.ซุนยัดเซ็น เดินทางไปขอร้องเพื่อ รวม สมาคม ซิงจงฮุ่ย สมาคม หวาซิงฮุ่ย สมาคม กวงฝูฮุ่ย เข้าด้วยกัน โดย เหล่าพันธมิตร ถงเหมิงฮุ่ย ได้กำหนดให้ใช้ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่ตั้งของ กองบัญชาการกลาง
แต่แล้วในปี 1906 ด้วยการช่วยเหลือของพี่ชาย เฉินฉีเหม่ย ในวัย 28 ปี ก็ได้รับโอกาสไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เขาเลือกเรียน โรงเรียนนักเรียนตำรวจ ที่กรุงโตเกียว แต่ก็ไม่ได้เอาจริงเอาจังอะไร เพราะสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาตอนนั้น คือ เหล่ามิตรสหายนักเรียนชาวจีนในญี่ปุ่น กำลังมุ่งมั่นวางแผนเพื่อ “ล้มเจ้า”
ที่โตเกียวนี่เองเขาได้พบกับ เจียงไคเช็ก ขณะนั้น เฉินอายุ 30 ปี แต่เจียงอายุเพียง 19 ปีที่มาเรียนวิชาทหารที่ญี่ป่น ทั้งคู่ได้สาบานเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน เนื่องจากทั้งคู่มาจากเจ้อเจียง เช่นกัน เจียงไคเช็กตอนนั้นนับถือ เฉินฉีเม่ยอย่างมาก นอกจากนี้ เขายังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตร “ถงเหมิงฮุ่ย” ทั้งคู่อีกด้วย
ปี 1906 เจียงไคเช็กกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด แต่เขารับงานจากแก๊งชิงปัง โดยบุกไปในคุก เพื่อชิงตัว นักโทษของแก๊งชิงปัง และนักโทษการเมือง โดยมีข่าวลือว่า เฉินฉีเม่ยนี่เองเป็นคนพาเจียงไคเช็กไปรับงานกับแก๊งชิงปัง ต่อมาเจียงก็รับงานฆาตกรรม รีดทรัพย์และปล้นสดมถ์ โดยมีหลักฐานของตำรวจอยางเป็นทางการ
ปี 1908 ซุนยัดเซ็น สั่งให้ เฉินฉีเหม่ย กลับมาที่จีน เพื่อวางเครือข่ายคณะปฎิวัติใน ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง อันประกอบไปด้วย เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง โดยให้เขาประสานงานกับ ซ่งเจี่ยหรง และ ถานเหริ่นเฟิง เพื่อก่อตั้งกองกำลังติดอาวุธ แต่การปฎิวัติในครั้งแรกนั้นล้มเหลว กลุ่มพันธมิตรส่วนใหญ่ต้องหนีเข้าไปในเวียดนาม
ปฎิวัติซินไฮ่
เมื่อเกิดการปฏิวัติอู่ชาง 1911 (武昌起义) หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า สองสิบ (双十) เนื่องจากเกิดขึ้นในวันที่ 10 เดือน 10 ขณะที่ชื่ออย่างเป็นทางการ คือ การปฏิวัติซินไฮ่ (辛亥革命) เนื่องจากตามปฏิทินจันทรคตินั้นเป็น ปี ค.ศ. 1911 ซึ่งชาวจีนเรียกว่า ปีซินไฮ่
เช้าวันที่ 3 พฤศจิกายน ทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้เงียบสงัด ร้านรวงปิดเงียบ เฉินฉีเหม่ยเป็นหัวหอกต่อต้านแมนจู ได้รวบรวมผู้คน 3000 คนจากแก๊งชิงปัง จนขุนนางราชสำนักที่คุมกองกำลังต่างต้องหนีเอาตัวรอด รวมถึงหลานชายของ หลี่ หงจาง ที่คุมกองกำลังอยู่ที่ เจียงหนานในเวลานั้น พร้อมประกาศว่า เซี่ยงไฮ้ เริ่มต้นการปฏิวัติแล้ว เฉินฉีเหม่ยได้รับการแต่งตั้งเป็น แม่ทัพว่าการแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้
วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.1911 ดร.ซุนเดินทางกลับมาที่จีน นำผู้แทนจาก 17 มณฑล ที่ประกาศแยกตัวเป็นอิสระมารวมตัวกันที่ นานจิง เตรียมการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว โดยเลือกดร.ซุนยัดเซ็น เป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาล
สังหารพันธมิตร
ก่อนการเจรจาระหว่างพันธมิตร ถงเหมินฮุ่ย กับ ราชวงศ์ชิง วันที่ 14 มกราคม 1912 เกิดการแตกแยกกันภายในพันธมิตรปฎิวัติ คือระหว่างง ถงเหมินฮุ่ย กลุ่มของ เฉินฉีเหม่ย กับกลุ่ม เถาเฉิงจัง 陶成章 ของสมาคม กวงฟู่ฮุ่ย ที่มารวมกลุ่มกัน เพื่อล้มราชวงศ์ชิง แต่เกิดขัดคอกันเอง เพราะ เถาเฉิงจัง นั้นต้องการสนับสนุน หยวนซื่อไข่ มากกว่า ดร.ซุนยัดเซ็น
เถาเฉิงจัง นั้น เขาเป็นคนที่จริงจังในเรื่องปฎิวัติอย่างมาก และมีมุมมองที่ต่างจากเฉินฉีเม่ย โดยเฉพาะการที่เฉินฉีเม่ย สนิทสนมกับพวกองค์กรใต้ดิน อย่างชิงปัง และมีพฤติกรรมเที่ยวบ่อน และซ่อง เป็นประจำ โดยความจริงทั้งคู่ไม่ถูกกันตั้งแต่เป็นนักเรียนที่ญี่ปุ่นแล้วด้วย โดยครั้งนั้น มีอีกแนวคิดคือ เฉินฉีเม่ยน้นกำลังได้ขึ้นเป็นผู้ว่าเจ้อเจียง แต่เหล่าพันธมิตร และเถาเฉิงจัง นั้นไม่เห็นด้วยที่จะยกตำแหน่งสำคัญให้เฉินฉีเม่ย
ดังนั้น เฉินฉีเหม่ยจึงเลือกที่จะกำจัดเขา แต่คนที่ลงมือฆ่าเถาเฉิงจัง กลับไม่ใช่ เฉินฉีเหม่ย แต่กลับกลายเป็นน้องชายร่วมสาบานของเขา คือ "เจียงไคเช็ค"
เหตุการณ์ เริ่มในเวลาประมาณ ตีสอง ของวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1912 เจียงไคเช็คพร้อม หวังจู่ชิง 王竹卿 ฝ่าความมืดมุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลในเขตเช่าฝรั่งเศส เมืองเซี่ยงไฮ้ ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องคนไข้ที่มี เถาเฉิงจัง นอนครึ่งหลับครึ่งตื่น อยู่ และเป็น หวังจู่ชิง ที่ลั่นไกยิงที่หน้าอกของ เถาเฉิงจัง แล้วเจียงไคเช็ก คอยซ้ำ เถาเฉิงจัง ตายคาที่ด้วยวัยเพียง 34 ปี
ไม่กี่วันต่อมา หวังจู่ชิง ที่ถูกพบกลายเป็นศพ ก็เกิดข่าวลือไปทั่วว่า เป็นการฆ่าล้างแค้น แต่ข่าวบางกระแส เชื่อว่า น่าจะเป็นการฆ่าปิดปากโดย เฉินฉีเหม่ยและเจียงไคเช็ค มากกว่า
วันที 28 มกราคม 1912 มีจดหมายเปิดผนึกถึง ดร.ซุนยัตเซ็น ประณามการแตกหักระหว่างพันธมิตรในถงเหมินฮุ่ย ดร.ซุนยัตเซ็น ขณะนั้นอยู่ที่ นานจิง ออกหนังสือชี้แจง ยกย่อง เถาเฉิงจัง ว่า เป็นระยะเวลายาวนานที่เขาคอยวิ่งเต้นช่วยเหลือกันและกันเสมอมา และขอให้เจ้าหน้าที่หาตัวคนร้ายมาเพื่อปลอบโยนจิตใจเหล่าวิญญูชนให้ได้ สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ ลุกน้องของเขาเองนั่นแหละ คือ คนร้ายเองรึเปล่า
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1912 เจียงไคเช็คถูกสั่งให้นั่งเรือจากเซี่ยงไฮ้ไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่น ในบันทึกส่วนตัวของเจียงไคเช็ก ระบุว่า การสังหาร เถาเฉิงจัง คือ จุดเริ่มต้นแห่งการไว้วางใจ
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1912 หยงลู่ไทเฮา พระมารดาของปูยี ประกาศสละราชบังลังก์
วันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1912 ดร.ซุนยัดเซ็น ยอมลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาสันติภาพกับหยวนซื่อข่าย แต่เมื่อหยวนสื่อข่ายได้กุมอำนาจบริหารประเทศไว้ในมือ ได้แล้ว เขาสั่งย้ายทำเนียบรัฐบาลจาก นานจิงไปอยู่ เป่ยจิง และ ขึ้นเป็นประธานธิบดีเฉพาะกาลแทน ดร.ซุนยัดเซ็น
ไล่ล่าก๊กมินตั๋ง
มีนาคม ค.ศ.1913 ประธานาธิบดีหยวนสื่อไข่ เริ่มลงมือกำจัดศัตรูทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคก๊กมินตั๋ง วันที่ 20 มีนาคม 1913 ซ่งเจียเหริ่น ถูกยิงเสียชีวิตที่สถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้ เป็นเหยื่อรายแรกที่เป็นสมาชิกของ ถงเหมินฮุย ที่ถูกลอบสังหาร เมื่อดร.ซุนยัดเซ็น รู้ข่าว ก็รีบเดินทางกลับจากญี่ปุ่นทันที และประกาศกร้าวว่า เขาต้องกำจัด หยวนซื่อไข่ ให้ได้ แต่ตอนนั้น หยวนสื่อไข่ กำลังวางแผนถอนรากถอนโคนพรรคก๊กมินตั่งให้สิ้นซาก
วันที่ 23 กรกฎาคม 1913 เฉินฉีเหม่ย ประกาศให้เซี่ยงไฮ้เป็นรัฐอิสระ แต่กองทัพจากปักกิ่ง ก็บดขยี้กองปฎิวัติที่เซี่ยงไฮจนพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว เฉินฉีเหม่ยต้องหนีตายกลับไปญี่ปุ่น ก่อนที่จะลอบกลับเข้ามาที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อก่อตั้งกองกำลังอย่างลับๆ ที่เซี่ยงไฮ้อีกครั้ง
ราชาแห่งการลอบสังหาร
หลังจากเขาหลบหนีกลับจากญี่ปุ่นเข้าจีน ในปี 1913 ตอนนี้ในเมืองเซี่ยงไฮ้ มีเครือข่ายลับ ของหยวนซือไข่ไปทั่ว
เฉินฉีเหม่ย เริ่มต้นภารกิจลับ ด้วยการไปลอบสังหารคนของหยวนซื่อไข่ โดยเริ่มต้นสังหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อมาก็ส่งแจกันระเบิดไปให้ที่บ้าน เหล่าคนที่สนับสนุนหยวนซื่อไข่ รวมถึงไปลอบฆ่า เซี่ยรุ่ยฟาง ผู้จัดการหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ ที่เป็นกระบอกเสียงให้ หยวนซื่อไข่
25 ตุลาคม ค.ศ.1915 ดร.ซุนแต่งงานกับซ่งชิ่งหลิงที่โตเกียว สหายร่วมรบผู้ภักดี
ปีนั้น หยาวนซื่อไข่ วางแผนให้ตัวเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่แล้ว วันที่ 10 พฤศจิกายน 1915 มือขวาที่หยวนสื่อไข่ ถูกส่งมาปกครองเซี่ยงไฮ้ คือ เจิ้งเหว่ยเฉิง แต่กลับถูกลอบวางระเบิด โดยลูกน้องของ เฉินฉีเหม่ย ที่สะพาน ไป่ตู่ ในเซี่ยงไฮ้
ตอนนี้ เฉินฉีเหม่ย ใช้วิธีการลอบสังหารเพื่อสังหารบุคคลสำคัญจำนวนมาก ไม่ว่าจะ อดีตเพื่อนร่วมคณะปฎิวัติ นักเลง หรือ ศัตรูทางการเมืองที่สนับสนุนหยวนซื่อไข่
แต่การที่ เฉินฉีเหม่ย ลอบสังหารคนของหยวนซื่อไข่ นั้น ก็ทำให้ หยวนซื่อไข่ นั้นตัดสินใจตามล่า เขาเช่นกัน โดยสั่งให้ จางซงฉาง ผู้ว่าราชการกองทัพเซี่ยงไฮ้ ไล่ล่า เฉินฉีเหม่ย
โดนลอบสังหาร
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1916 เฉินฉีเหม่ย ตอนนั้น พักอยู่ที่บ้านพักของชาวญี่ปุ่น ยามาดะ จูนซาบุโร่ บ้านเลขที่ 14 ถนน Saposai (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นถนน Yingshi เปลี่ยนจากถนน Tamsui ในปี 1950)
เฉินฉีเม่ย นั้นถูกวางแผนซ้อนแผน โดยอ้างว่า มีชาวญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินกับพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งชาวญี่ปุ่นมักให้ความช่วยเหลือ ดร.ซุนยัดเซ็นอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว ทำให้เฉินฉีเม่ยนั้นยอมเผยตัว แต่กลับถูกฆ่าโดยนักฆ่าโดยลูกน้องของ หยวนซื่อไข่ ที่ส่งไปล่าสังหาร
มีการจัดพิธีศพของ เฉินฉีเหม่ย ที่ เซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีผู้คนนับหมื่นไปร่วมงาน โดยมีคนเห็น ซุนยัตเซ็นเดินทางมาเคารพศพ ด้วย วันต่อมาศพก็ถูกฝังที่ เมืองหูโจว มณฑลเจ้อเจียง ผู้พลีชีพแก่คณะปฎิวัติ
ในที่สุด ราชามือสังหาร ก็ถูก ลอบสังหาร เสียเอง
อย่างไรก็ดี ด้วยคำสาบานกับเจียงไคเช็ก ก็ทำให้เจียงนั้นรับเอาหลานของเฉินฉีเม่ย มาเลี้ยงดู คือ เฉิน ลีฟู่ กับเฉินกัวฟู ต่อมาก็กลายเป็นหัวหน้าหน่วย เสื้อเชิ๊ตน้ำเงิน หรือ สายลับนั่นเอง โดยทั้งคู่ก็ได้เป็นบุคคลสำคัญของพรรคก๊กมินตั๋งต่อมาด้วย
Info Media Bomoh Sihir Paling Ampuh
ตอบลบKualitas No. (1) Di Malaysia.
Bomoh sihir Terbaik dan Terpercaya Di Malaysia. Memikat Hati Pria Atau Wanita Mudah Yang Anda Inginkan.
"BUKTIKAN SEKARANG JUGA SEBELUM KEKASIH ANDA DI AMBIL ORANG LAIN"
Jika Berminat Silahkan Hub: KYAI ANOM SUROTHO Di: 085-298-569-393
APA YANG DI MAKSUD DENGAN BOMOH SIHIR PALING AMPUH!!!
1. Dihiyanati Pasangan
2. Cinta Di Tolak
3. Memikat Hati Lawan Jenis
4. Persaingan Cinta
5. Membangkitkan Gairah Cinta
6. Memikat Pasangan Anda Agar Tidak Berpaling Keorang Lain
7. Membuka Aura Yang Penuh Dengan Daya Pikat Agar Semua Orang Tertarik.
(KLIK LANGSUNG DI WHAYSAPP)
APA YANG DI MAKSUD DENGAN BOMOH SIHIR PALING AMPUH!!!
Bomoh Sihir Ampuh. Adalah Sebuah Sarana Pemikat Hati Pria Atau Wanita Yang Akan
Membantu Anda Mengcapai Impian Untuk Mendapatkan Jodoh Idaman Anda. Dengan Adanya Media Bomoh Sihir Paling Ampuh Ini Dalam Urusan Asmara Akan Di Permudah Dan Lancar. Kini Saatnya Anda Mulai Hidup Baru Dengan Cinta.
MANFAAT ILMU BOMOH SIHIR PALING AMPUH DI MALAYSIA!!!
Jika Anda Sudah Bosan Jomlo. Sekarang Saatnya Anda Bangkit Dan Maju Kedepan Untuk Mendapatkan Jodoh.
Anda Bersama Ilmu Bomoh Sihir Paling Ampuh Di Malaysia. Dengan Menggunakan Ilmu Bomoh Sihir Pengasihan Yang Ada Di Website Ini Maka Atas Izin Allah S.W.T. Anda Bisa Langsung Mendapatkan Pria Atau Wanita Idaman Anda Melaui Perantaran Media Ilmu Bomoh Sihir Pengasihan Pemikat Pria Atau Wanita.
INILAH MEDIA ILMU BOMOH SIHIR SUDAH TERBUKTI PALING AMPUH!!!
Sudah Banya Orang Yang Membuktikan
Keberhasilannya Dalam Mendapatkan Jodoh.
Memikat Hati Orang lain. Menundukan Atasan. Mengembalikan Kekasih Yang Di Rebut Orang Lain. Dengan Menggunakan Media Ilmu Bomoh Sihir Paling Ampuh Yang Di Website Ini
Niscaya Apapun Keinginan Anda Akan
Terwujud Silahkan Anda Buktikan Sendiri.
PERSYARTAN
Nama Lengkap Dan Gambar Anda
Nama Lengkap Dan Gambar Target
Sudah Ribuan Klien Yang Kami Telah Berhasil Dengan Ilmu Bomoh Sihir Pemikat Pria Atau Wanita. Ilmu Pelet Puter Giling. Ilmu Pelet Pengasihan Sukma Atau Ilmu Pelet Pengasihan Pemikat Pasangan. Kini Giliran Anda. Dan Masalah Anda Akan Dapat Dan Terselesaikan Dengan Baik!!!