วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ฺจีน(BC241-280) - หลวีฮองเฮา ฮองเฮาจิตวิปริต กับ มนูษย์หมู

หลังจาก หลิวปัง ปราบ ฌ้อปาอ๋อง หรือเซี่ยงอวี่ ได้สำเร็จ ก็ขึ้นครองราชย์ เป็น ฮั่นเกาจูฮ่องเต้ และสถาปนาราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ในปี 206 ปีก่อนคริสตศักราช

หลวี่ ฮองเฮา มีชื่อเดิมว่า หลวี่จื้อ หรือหลายคนเรียก่า   หลวี่โฮ้ว(吕后)  (241–180 ก่อนคริสต์ศักราช) เป็นมเหสีของฮ่องเต้อั่นเกาจู่ 漢高祖 หรือ หลิวปัง ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก  มีบุตรเป็นองค์ชายรัชทายาทชื่อ หลิวอิ๋ง (劉盈และมีลุกสาวอีกคนชื่อ องค์หญิงลู่หยวน 魯元



เดิมนั้น หลิวปัง ลูกชาวนา ขี้เกียจเรียนหนังสือ กินเหล้า เที่ยวเตร่  แต่มีเพื่อนฝูงมากมาย จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น นายบ้านคอยดูแลความสงบภายในหมู่บ้าน แต่มาวันหนึ่ง พ่อของหลี่โฮ้ว เศรษฐีจัดงานเลี้ยงใหญ่โต หลิวปัง อยากเข้างานแต่ไม่มีเงินใส่ซอง  หลิวปัง เขียนหน้าซองว่า ให้หนึ่งหมื่น นอกจากนี้ในงานเขายังคุยโวโอ้อวด จนพ่อตาชอบใจ ยกลูกสาวคือ หลี่โฮ้ว ให้

หลี่โฮ้ว นั้นเป็นลูกสาวของพ่อค้าข้าวที่ร่ำรวย ทำให้พ่อและนาง สามารถผลักดันให้ หนุ่มลูกชาวนา อย่าง หลิวปัง ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ด้วยกการส่งเสบียงให้กองทัพได้สม่ำเสมอ และ ทำให้ คนในตระกลูหลี่ ของนางนั้นมีอำนาจและบารมีในกองทัพด้วย จนกระทั่งปี 202 ก่อนคริสตกาล หลิวปังก็สามารถรวบรวมแผ่นดินได้ ขึ้นเป็นกษัตริย์ฮั่นเกาจู

เสร็จนาฆ่าโคถึก
หลี่ฮองเฮา ผู้นี้เอง เป็นคนเสนอ สามีที่เป็นฮ่องเต้ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล  นั่นคือ นางเป่าหู ฮั่นเกาจูฮ่องเต้ ว่า หานเซิ่น ที่ได้รับความดีความชอบจากการปราบเซี่ยงอวี่ ได้ไปเป็นอ๋องปกครอง แคว้นฉู่ แต่นางกลัวว่า หานเซิ่น จะก่อรัฐประหาร จึงเรียกตัวเข้าวัง ลดยศและคุมตัวที่วังหลวง 4 ปี ต่อมามีเจ้าเมืองคนหนึ่งก่อกบฎขึ้น ฮั่นเกาจูฮ่องเต้เดินทางไปปราบ หานเซิ่นได้ที วางแผนก่อกบฎที่เมืองหลวง แต่หลี่ฮองเฮา ได้ข่าววางแผนตลบหลัง หานเซิ่น สั่งประหาร 3 ชั่วโคตร จบชีวิตขุนพลที่ช่วยยก่อตั้งราชวงศ์

อีกคนคือ เผิงเยว์ ( 彭越)  ขุนพลอีกคนที่ร่วมรบกับหลิวปังมาได้รับความดีความชอบ ขึ้นเป็นอ๋องแห่งแคว้น เหลียง ครั้งหนึ่ง ฮั่นเกาจู ฮ่องเต้ สั่งให้กองทัพของแคว้นเหลี่ยงไปช่วยปราบกบฎ แต่เห็นหานเซิ่น จบชีวิต เผิงเยว์ จึงอ้างว่า ป่วย ไม่ยกทัพไปช่วย ฮ่องเต้เห็นว่า แคว้นเหลียงจะแข็งเมือง รวมถึง หลี่ฮองเฮา เป่าหูว่า หากให้ เผิงเยว์ ไปอยู่เสฉวน อาจเป็นการปล่อยเสือเข้าป่า (เหมือนที่เซี่ยงอว๊่เคยทำกับหลิวปัง)  จึงสั่งประหาร 3 ชั่วโคตร นอกจากนี้ หลี่ฮองเฮา ยังสับศพของเผิงเยว์ ส่งไปให้แคว้นต่างๆ ดู เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูอีกด้วย

ความโหดร้าย
ปลายรัชกาลของ หลิวปัง ทรงโปรดปรานนางสนมคนหนึ่งชื่อ สนมชีฮูหยิน 戚姬 ถึงขนาดเคยคิดจะปลด จางอ้าว สามีของลูกสาว องค์หญิง ลู่หยวน ออกจากตำแหน่ง จ้างหวัง  แล้วให้ ลูกชาย คือ หลิวหรูอี้ 劉如意 ที่เกิดกับ สนมซีฮูหยิน  ขึ้นแทน  ด้วยเหตุผลว่า จางอ้าว นั้น “เป็นคนจิตใจดีเกินไป” แต่เหล่าที่ปรึกษาที่อยู่ภายใต้อาณัติของหลี่ฮองเฮา ช่วยกันทัดทานเรื่องนี้ไว้ ทำให้ หลิวปัง ยกเลิกความคิด แต่มันก็ทำให้ หลี่ฮองเฮา ไม่พอใจเรื่องนี้อย่างมาก

เมื่อ หลิวปัง สิ้นชีพลง ในปี 195 ปีก่อนคริตกาล   หลิวอิ๋ง ขณะนั้นอายุเพียง  17 ปี ก็ได้ขึ้นครองราชย์ หลี่ฮองเฮา จึงขึ้นเป็น หลี่ไทเฮา และขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้  เมื่อได้ตำแหน่ง หลี่ไทเฮา ก็วางแผนแก้แค้นสนมชีฮูหยิน เริ่มต้นด้วยการ สั่งโกนผม และปลดยศลงไปเป็นทาส ใส่โซ่ตรวนแล้ว ส่งตัวไปใช้แรงงาน โดยให้ไปโม่แป้ง

จากนั้นจึงเรียกตัว หลิวหรูอี้ ลูกชายของ สนมชีฮูหยิน ขณะนั้นอายุเพียง 12 ปี มาเข้าวัง เพื่อหวังสังหาร หากปรากฏว่า หลิวอิ๋ง กลับสนิทสนมกับ หลิวหรูอี้ มาก จึงคอยปกป้อง น้องชายต่างมารดามาโดย ตลอด พยายามอยู่ติดกับ หลิวหรูอี้ เพื่อมิให้ หลี่ไทเฮา มีโอกาส

วันหนึ่ง หลิวอิ๋ง ออกล่าสัตว์ ชวน หลิวหรูอี้ ไปด้วย แต่ หลิวหรูอี้ ซึ่งยังเล็กง่วงนอนไม่ยอมลุกจากเตียง จึงถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง หลี่ฮองเฮา ใช้โอกาสนี้ ส่งมือสังหารลอบเข้ามาจับ หลิวหรูอี้ กรอกยาพิษตาย หลิวอิ๋ง เห็นน้องตายก็เสียใจนัก

ในงานเลี้ยงครั้งหนึ่งเขาเห็น หลี่ไทเฮา ทำท่าเบิกบานเป็นพิเศษ หลิวอิ๋ง จึงถามว่า "เสด็จแม่ยินดีเรื่องอะไร?"

หลี่ไทเฮาจึงกล่าวว่า "ตามมาสิ แม่จะให้ดูของประหลาด"

หลิวอิ๋งต้องแปลกใจเมื่อแม่พาเขาไปยัง ส้วมสกปรกแห่งหนึ่ง หลี่ไทเฮาชี้ให้ลูกดูเห็นเป็น สนมชีถูกตัดแขน ตัดขา ควักลูกตา ตัดหู ตัดลิ้น แล้วล่ามโซ่อยู่ในส้วม ให้รับประทานอุจจาระ สนมชีส่งเสียงร้องครวญครางเหมือนเสียงหมู มีชีวิตเยี่ยงหมูข้างห้องส้วม น่าอเนจอนาถใจยิ่งนัก จากสนมที่ฮ่องเต้หลงรักมาเป็นมนุษย์หมูสกปรกโสโครกโสมม ไร้แขนขาแถมตาบอดอีก ยิ่งกว่าตกสวรรค์อีกนะนี่

"นี่คือสัตว์ประหลาดเรียกว่า 'มนุษย์หมู' !" หลี่ไทเฮา อธิบาย

 หลิวอิ๋งเห็นภาพนั้นก็ตกใจมาก และเข้าใจแล้วว่า แม่ของตนเหี้ยมโหดเพียงใด เมื่อแม่สั่งอะไรมา หลิวอิ่งต้องทำตามอย่างไม่บิดพริ้ว มิเช่นนั้นอาจพบชะตากรรมเดียวกัน ทำให้หลิวอิงผู้เป็นฮ่องเต้ใช้ชีวิตไปวันๆ ทำตัวเสเพล ดืมเหล้า เพื่อไม่ให้เกะกะการกระทำของแม่ หลี่ไทเฮาอยากทำอะไรก็ตามใจ ปล่อยให้แม่ ออกว่าราชการและกุมอำนาจทั้งหมด

ยกน้องสาวต่างแม่เป็นแม่บุญธรรม
อีกเหตุการณ์ที่แสดงถึงความโหดเหี้ยม คือ ความจริงหลิวปัง นั้น มีเมียคนก่อน หลี่ฮองเฮา และมีลูกชายด้วยกัน ชื่อ หลิวเฝย หลิวปัง นั้นแต่งตั้งให้ หลิวเฝย ครองเมืองหลายแห่ง และถือเป็นพี่ชายต่างมารดาของ หลิวอิ๋ง

หลี่ไทเฮา จึงรับสั่งให้เรียกตัว หลิวเฝย เข้าเมืองหลวง เมื่อ หลิวอิ๋ง รู้ข่าว ก็จัดงานเลี้ยงรับรอง แต่ หลี่ไทเฮา นั้น พระราชทานเหล้าพิษให้ 2 จอก ขณะที่ หลิวเฝย กำลังยกแก้วขึ้น หลิวอิ๋งก็ยกอีกแก้วขึ้นตาม แต่หลี่ไทเฮา รีบปัดแก้วตกพื้น ทำให้หลิวเฝย ไม่กล้ากินเหล้าจอกนั้นต่อ

ที่ปรึกษาของหลิวเฝย แนะนำว่า หลี่ไทเฮานั้น รัก ลูกสาวคือ องค์หญิงลู่หยวน มาก  หลิวเฝยจึงต้องยอมรับ องค์หญิงลู่หยวนเป็นแม่บุญธรรม เพื่อให้รอดชีวิตจาก หลี่ไทเฮา ซึ่งหลี่ไทเฮานั้นก็ชอบใจเป็นอันมาก

ยกหลานเป็นเมีย
หลี่ไทเฮานั้น ให้ลูกสาวของ องค์หญิงลู่หยวน คือ จางฮองเฮา มาเป็นเมียของ หลิวอิ๋ง นอกจากนี้ หลิวอิ๋ง นั้น ไม่มีลุกกับจางฮองเฮา หลี่ไทเฮา จึงวางแผนไปเก็บเด็กชาวบ้านมาเลี้ยง 2 คน  แล้วฆ่าพ่อแม่เด็กเสียนำมาเป็นลูกของ จางฮองเฮา แทน

่นักประัติศาสตร์นั้นสงสัยว่า หลิวอิ่งนั้น เป็นคนไม่เอาไหนจริงๆ หรือเพียงแค่เขาเอาตัวรอดไปวันๆ อย่างยากลำบาก ที่สำคัญคือ เขาไม่กล้าแม้แต่จะชิงอำนาจจากแม่ของเขาด้วยซ้ำ  ไม่นานหลิวอิงก็ ล้มป่วยและเสียชีวิตลงในวัยแค่ 24 ปี

พอ หลิวอิ๋ง ป่วยตาย หลี่ไทเฮา ก็ให้ราชโอรสปลอม ชื่อหลิกง ที่เก็บมาเลี้ยงนั้น ขึ้นเป็นฮ่องเต้ต่อ แต่เมื่อเด็กรุ้ความ ก็ตะโกนว่า  หลี่ไทเฮา เป็นคนฆ่าพ่อแม่เขา สักวันเขาต้องล้างแค้น  เมื่อเรื่องนี้ถึงหู หลี่ไทเฮา ก็สั่งประหารฮ่องเต้เด็กทันที แล้วให้ราชโอรสอีกคน ชื่อหลิหง ขึ้นตำแหน่งฮ่องเต้แทน นางเรืองอำนาจอยู่หลายปี โดยในยุคของนาง นางไล่กวาดล้างคนตระกูลหลิวไปมากมาย และแต่งตั้งคนตระกูลหลี่ขึ้นมาเป็นอ๋องแทนถึง 4 แคว้น

ก่อนตายป่วยเป็นโรคประหลาด มีอาการประสาทหลอน ร้องโวยวายว่า เหล่าวิญญาณที่นางฆ่าตายจะตามมาทวงเอาชีวิตคืน จนที่สุด หลี่ไทเฮา เสียชีวิต ในปี 180 ปีก่อนศริสตศักราช ด้วยวัย 62 ปี  โจวป๋อ ผู้บัญชาการสูงสุด และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งราชวงศ์ที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ ได้ก่อกบฎ กับตระกูลหลี่ และไล่กวาดล้างคนแซ่หลี่ รวมถึงราชโอรสปลอมที่เป็นฮ่องเต้ด้วย แล้วอัญเชิญ น้องชายต่างมารดาอีกคนของ หลิวอิ๋ง คือ หลิวเหิง ขึ้นเป็นฮ่องเต้  ชื่อ ฮั่นเซี่ยวเหวินตี้ หรือ ฮั่นเหวินตี้ ในปี 180 ก่อนคริสตศักราช

ฮั่นเหวินตี้
ย้อนประัติ ของ หลิวเหิง ที่รอดตาย จากหลี่ไทเฮา ได้ เพราะ แม่ของเขา คือ สนมโป ไม่ใช่สนมที่ฮั่นเกาจู หรือหลิวปังโปรดปรานมากนัก นอกจากนี้ ในปี 196 ปีก่อนคริสตศักราช หลิวปังได้แต่งตั้งให้ หลิวเหิง ไปเป็น อ๋องครองเมืองไต หัวเมืองชายแดน ที่นั่นเองแม้จะยากลำบากแต่ส่งผลดีให้หลิวเหิงนั้นรอดพ้นจากน้ำมือของ หลี่ไทเฮา

ครั้งหนึ่ง หลี่ไทเฮา เคยลองใจ หลิวเหิง ด้วยการจะแต่งตั้งให้ หลิวเหิง ไปครองเมืองจ้าว แต่หลิวเหิงปฎิเสธว่า สุขภาพไม่ค่อยดี อยากอยู่ชนบทมากกว่า ทำให้รอดจากการถูกกำจัดของหลี่ไทเฮา

และยุคของฮั่นเหวินตี้ นี่เองที่บ้านเมืองสงบสุข เขายกเลิกการลงโทษสถานหนัก เช่น การตัดจมูก ตัดข้อเท้า ต่างๆ และ หันเน้น การใช้แรงงาน และ เก็บค่าปรับแทน เพื่อแก้ไขปัญหาท้องพระคลังว่างเปล่า  ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ลดภาษี จากร้อยละ 6.6 เหลือร้อยละ 3  นอกจากนี้ยังประกาศไม่รับของที่ประชาชนนำมาถวายใดๆ ทั้งสิ้น อีกด้วย

แม้แต่เมื่อประชวรหนัก ก็สั่งให้ผู้คนไม่ต้องสร้างสุสาน อาศัยเพียง เนินเขาก็พอเพียง สั่งห้ามให้ใช้แรงงานมาสร้างสุสานใดๆ ทั้งสิ้น  นอกจากนี้ยังสั่งให้จัดงานศพเพียง 3 วัน เหล่านางสนมต่างๆ  ก็ให้กลับไปอยู่กับบิดามารดา และไม่ต้องสนว่า พวกนางจะครองตัวเป็นม่ายต่อไปหรือไม่ก็ตามอีกด้วย

เหตุที่บ้านเมืองร่วมเย็นสงบสุข  ทำให้คนจีน เชื่อมั่นว่า ชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้นไปตลอด จนภูมิใจ เรียกตนเองว่า ชาวฮั่น ในยุคนนี้เอง

---------------



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น