พระศพของพระนางถุกบรรจุไวในสุสานตะวันออกของราชวงศ์ชิง ชิงตงหลิง มณฑลเหอเป่ย ห่างจากราชวังต้องห้ามไปประมาณ 120 กิโลเมตร สุสานแห่งนี้ยังฝังศพของเหล่าฮ่องเต้ในราชงศ์ชิง อย่าง ซุ่นจื่อ คังซี เฉียนหลง เสียนเฟิง ถงจื้อ อีกด้วย
ในสุสานของพระนางูสีไทเฮา นั้นเต็มไปด้วยทรัพย์สินมากมาย ทั้งทองคำและหยก เพชรพลอย อัญมณ๊ ที่นางโปรดปราน ถูกเก็บไว้อย่างสงบ จนกระทั่ง ประเทศจีนเข้าสู่ยุคขุนศึก ในอีก 20 ปีถัดมา
ซุนเตี๋ยนอิง
ซุนเตี๋ยนอิง (孙殿英) 1889-1947 อดีตนักเลง แต่ตอนนั้นเป็นถึง นายพลแห่งกองพลที่ 12 ของก๊กมินตั๋ง แม้ว่าตำแหน่งเขาจะเป็นเพียงขุนศึกระดับรอง แต่ในประวัติศาสตร์จีน เขาคือโจรปล้นสุสานที่มีชื่อเสียที่สุด เพราะสุสานที่เขาปล้นคือ สุสานของซูสีไทเฮา และสุสานของเฉียนหลงฮ่องเต้
วันที่ 8 กรกฎาคม 1928 ซุนเตี๋ยนอิง ได้นำกองกำลังปิดล้อมสุสาน ชิงตงหลิง เพื่อไม่ให้มีผู้ใดสามารถเข้า ออกได้ โดยอ้างว่า กองกำลังทหารของเขาต้องคุ้มครองสุสานกษตริย์ เขาเริ่มต้นด้วยการวางระเบิดประตูสุสานแล้วเข้าชิงทรัพย์สมบัติ
บันทึกของหลี่เหลี่ยนอิง ขันทีคนสนิทของพระนางซูสีไทเฮา บันทึกไว้ว่า สุสานของซูสีไทเฮามีทรัพย์สมบัติมหาศาล เฉพาะในหีบศพ ก็บรรจุ พระพุทธรูปหยก และทองคำ 108 องค์ ม้าหยก 8ตัว เจดีย์หยก และหยกขาว 203 ชิ้น หยกแสงจันทร์ 85 ชิ้น ไข่มุก 24704 ลูก ที่สำคัญคือ ในปากของซูสีไทเฮานั้น ไข่มุกเรืองแสง ขนาดเท่าไข่นกพิราบ ที่เชือ่ว่า าสามารถรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อยได้
เหล่าโจรเข้าปล้นอย่างหยาบคาย หีบศพถูกเปิด พระศพของซูสีไเทเฮา ถูกลากออกมาทิ้งไว้กับพื้น เพชร พลอยถูกขโมยออกไป ไม้เว้นแม้แต่ ไข่มุกที่อยู่ในปากก็ถูกง้างงัดเอาออกมา จนไม่เหลืออะไรเลย เหลือเพียงผ้าคลุมพระศพ
แต่หารู้ไม่ผ้าคลุมพระศพนั้นมีค่ามาก แม้จะเป็นเพียงผ้าขนาดแค่ 3 ตารางเมตร แต่มันมีมูลค่าสูงมาก เพราะด้ายนั้นปั่นทอจากทองคำแท้ๆ ปักเป็นพระสูตรในศาสนาพุทธเต็มทั้งผืน
เมื่อมีการออกข่าวออกไป ประชาชนจำนวนมาก ไม่พอใจการกระทำอันหยาบช้าเช่นนี้ เช่นเดียวกับ ปูยี อดีตฮ่องเต้ไร้บังลังก์ และมีการเรียกร้องให้สอบสวนเรื่องดังกล่าว แต่ซุนเตี๋ยนอิง กลับติดสินบนผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะข่าวลือ เรื่องที่ ซุนเตี๋ยนอิง นำมุกประดับของพระนางซูสีไทเฮาไปมอบให้เจียงไคเช็ก
แล้วเจียงไคเช็กนำไปมอบให้แก่ ซ่งเหม่ยหลิง ภรรยา เพื่อเอาไปประดับที่ข้อเท้า ทำให้ผู๋อี้นั้นตัดขาดคามสัมพันธ์กับคนจีนเลยทีเดีย และหันไปคบญี่ปุ่นแทน
สตรีผู้ยิ่งใหญ่ คับแผ่นดิน แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องยอมสยบ แต่เมื่อตายไป ศพกลับโดนทิ้งไว้บนพื้น
ประวัติของซุนเตี๋ยนอิง
สมัยเด็ก ซุนเตี๋ยนอิง ได้เรียนโรงเรียนเอกชน แต่เกเร เผาโรงเรียนทำให้โดนไล่ออกจากโรงเรียน ต่อมาวัยรุ่น กลายเป็นสิงห์นักพนัน และ ติดฝิ่นอย่างหนัก แต่เขาก็อาศัยอยู่ในวงการมืด และเป็นหัวหน้ากลุ่ม ในปี 1922 เขานำกองทัพใต้ดินของเขาผสมกับทหารจริง เข้าสู่กองทัพเหอหนาน เขาได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว แต่หลังกองทัพแพ้ เขากลับกลายเป็นเพียงกลุ่มโจร เล็กๆก่อนที่จะกลับเข้าสู่กองทัพอีกครั้ง
แต่ในที่สุด กองทัพของซุนเตี๋ยนอิง ก็พ่ายแพ้แก่กองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์ในวันที่ 2 พฤษภาคม 1947 พอปลายปี ซุนเตี๋ยนอิง ก็เสียชีวิตในค่ายกักกันนั่นเอง โดยสาเหตุจาก อาการขาดฝิ่นรุนแรง ในวัย 58 ปี
ชะตาชีวิตของ หลี่เหลี่ยนอิง ขันทีคู่ใจซุสีไทเฮา
กลับมาเรื่องหลี่เหลี่ยนอิง ขันทีคู่ใจซูสีไทเฮา หลังจาก ซูสีไทเฮาสิ้นพระชนม์ หลี่เหลี่ยนอิง ก็ไว้ทุกข์ให้ 100 วัน หลังจากนั้น ก็ชิงลาออกจากวังต้องห้าม ไปใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน เพียง 3 ปีหลังจากนั้น 4 มีนาคม 1911 มีคนพบศีรษะของเขาที่ทะเลศสาบ โฮ่วไห่ ปักกิ่ง มีการสันนิษฐานว่า มาจากหลายสาเหตุ หนึ่งคือ ถูกหยวนซ์ื่อไข่ฆ่าปิดปาก หรือ อาจถูกขันทีคู๋แข่งอย่างเสียวต๋อจางล้างแค้น
ตำนานไข่มุกเรืองแสง
ตำนาน มุกเรืองแสง ความจริง มีการใช้มุกเรืองแสงตั้งแต่ยุคจิ๋นซีฮ่องเต้มาก่อนแล้ว แต่ด้วยการที่ชื่อ มุก คนเลยนึกว่าเป็นไข่มุก แต่ความจริง มันคือ แร่หินชนิดหนึ่ง ที่มีทั้งสีเขียวและสีแดง โดยมีพวกสารฟูลออร์สปาร์ ทำให้เรืองแสงได้ในที่มืด โดยมักจะเจียระไนให้เหมือนมีทรงกลมเหมือนไข่มุก โดยเดิมมันอยู่บน มงกุฎของพระนางซุสีไทเฮาถึง 9 เม็ด แต่ครั้นกบฎอี้เหอถวน ซูสีไทเฮาได้สั่งให้นางสนมหวังแกะออกมา 4 เม็ด เพื่อให้สนมหวังไปมอบกำนัลแด่ หลี่หงจาง เพื่อเป็นกำลังใจในการเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ แต่นางสนมหวังเก็บไว้กับตัว ขณะที่เมื่อซูสีไทเฮา เสียชีวิต ได้สั่งให้ หลี่เหลียนอิง ขันทีคู่ใจแกะเอาเม็ดที่ใหญ่ที่สุดใส่ปากพระนางซูสีไทเฮาเพื่อป้องกันศพเน่าเปื่อย
นั่นคือ ตอนนี้ มี 4 เม็ดอยู่ที่ นางกำนัลหวัง 4 เม็ดอยู่กับมงกุฎ และอีกเม็ดอยู่ในปาก ซูสีไทเฮา แต่เมื่อมีการปล้นสุสาน ทั้งมงกุฎและเม็ดในปาก จึงไปอยู่กับ ซุนเตี้ยนอิง แต่เหตุการณ์นั้น ประชาชนต่อต้านรุนแรงมาก ทำให้ ซุนเตี้ยนอิง ต้องนำมาคืน
อย่างไรก็ดี มุก 5 เม้ดนั้น ถูกแยกกันเพื่อขายในตลาดมืดเสียแล้ว ขณะที่เม็ดใหญ่สุดนั้น ตกอยู่ในมือของ ซ่งเหม่ยหลิง โดยถูกนำเอาไปที่ไต้หวันด้วย และได้ขายมันให้แก่ ร๊อกกี้เฟลเลอร์ มหาเศรษฐีในยุคนั้น ส่วนที่อยู่กับ นางกำนัลหวังนั้น นางได้มอบให้กับสามีภรรยาที่ดูแลเธอยามแก่ ซึ่งต่อมาได้คืนให้กับประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว
ชาวแมนจุนั้นเกลียดคนมณฑลเหอหนาน 2 คน คนหนึ่งคือ ซุนเตี๋ยนอิง จอมโจรปล้นสุสานราชวงศ์ชิง อีกคนคือ หยวนซื่อไข่ โจรขโมยประเทศจากชาวแมนจู